เอเอฟพี - วิดีโอบันทึกภาพเสือสุมาตราตัวหนึ่งทุรนทุรายจนสิ้นใจ หลังติดบ่วงแร้วของชาวบ้านในเขตป่าอินโดนีเซีย มานานถึง 7 วัน แสดงให้เห็นถึงปัญหาการบุกรุกแผ้วถางป่าฝนที่นับวันยิ่งหนักข้อมากขึ้น กลุ่มกรีนพีซเปิดเผยวันนี้ (26)
ซุลฟาห์มี นักรณรงค์พิทักษ์ป่าแห่งกลุ่มกรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุว่า ชาวบ้านเป็นผู้วางกับดักดังกล่าว หวังจับหมูป่าในพื้นที่สัมปทานป่าไม้ของบริษัท เอเชีย พัลพ์ แอนด์ เพเพอร์ (เอพีพี) ผู้ผลิตกระดาษและบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในโลก
“เสือสุมาตราตัวนี้ตายในพื้นที่สัมปทานป่าของบริษัท เอพีพี เพราะพื้นที่แถบนี้ถูกบริษัทผลิตกระดาษแผ้วถาง เสือสุมาตราจึงต้องละทิ้งถิ่นอาศัย” ซุลฟาห์มี นักพิทักษ์ป่าชาวอินโดนีเซีย กล่าวกับเอเอฟพี
“เราขอเรียกร้องให้บริษัท เอพีพี ยุติการบุกรุกผืนป่าอินโดนีเซีย ... เพื่อยับยั้งไม่ให้สัตว์ใกล้สูญพันธุ์กลายเป็นสัตว์สูญพันธุ์”
ปัจจุบัน ทั่วทั้งโลกมีเสือสุมาตราหลงเหลืออยู่เพียง 300-400 ตัว มิหนำซ้ำในแต่ละปียังเกิดการสูญเสียสมาชิกเสือสุมาตราอีกหลายตัว โดยมักมีสาเหตุมาจากบ่วงแร้ว การรุกล้ำพื้นที่ป่า และการกระทำของมนุษย์
ซัมซามี นักรณรงค์ด้านสื่อแห่งกลุ่มกรีนพีซที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เสือสุมาตราอายุ 18 เดือนตัวนี้ หยุดหายใจภายใน 3 ชั่วโมง หลังจากถูกเจ้าหน้าที่พิทักษ์สัตว์ป่าวางยาระงับประสาท ช่วยบรรเทาความเจ็บปวด
กรีนพีซได้บันทึกภาพชั่วโมงที่เสือสุมาตราตัวนี้กำลังทุกข์ทรมาน ขณะที่มันพยายามดึงอุ้งเท้าที่ดำคล้ำออกจากกับดัก
“เสือตัวนี้ตายวันที่ 1 กรกฎาคม หลังจากติดกับดักมานาน 7 วัน มันไม่ได้กินไม่ได้ดื่ม อุ้งเท้าของมันเปลี่ยนเป็นสีดำ มีแมลงวันบินตอมอยู่รอบๆ” ซัมซามี กล่าว
สัตวแพทย์ถูกเรียกตัวไปยังจุดเกิดเหตุในจังหวัดรีอู (Riau) บนเกาะสุมาตรา แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเสือตัวนี้ไว้ได้
ด้าน ไอดา กรีนบิวรี โฆษกหญิงของบริษัทเอพีพี แถลงว่าข้อเสนอแนะใดๆ ก็ตามที่ระบุว่าบริษัทเป็นต้นเหตุการตายของเสือตัวนี้ “ไม่เพียงคลาดเคลื่อนโดยสิ้นเชิงเท่านั้น แต่ยังเป็นการกล่าวหาอย่างร้ายกาจ”
ทั้งนี้ กลุ่มกรีนพีซระบุว่าการทำป่าไม้ของบริษัทเอเชีย พัลพ์ แอนด์ เพเพอร์ (เอพีพี) รวมถึงบริษัทอื่นๆ กำลังทำลายถิ่นอาศัยของเสือสุมาตรา และผลักดันให้พวกมันเผชิญอันตรายจากการใกล้ชิดกับถิ่นอาศัยของมนุษย์มากยิ่งขึ้น