เอเอฟพี - พันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำหัวรั้นแห่งลิเบีย กล่าวสรรเสริญอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค แห่งอียิปต์ที่ถูกโค่นอำนาจว่าเป็นคน “ยากจนและสมถะ” ซึ่งคู่ควรกับการยกย่องมากกว่าคำประณาม
“ผมรู้จักฮอสนี มูบารัค ดี เขาเป็นผู้นำที่ยากจน, สมถะ และรักประชาชน” กัดดาฟีออกแถลงการณ์เสียงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติวานนี้ (23) เนื่องในโอกาสครบรอบ 59 ปีแห่งการปฏิวัติต่อต้านราชวงศ์ลิเบียโดยกามาล อับเดล นาสเซอร์
กัดดาฟีบอกว่า การปฏิวัติครั้งนั้นเป็นแรงบันดาลใจให้เขาโค่นล้มกษัตริย์อิดรีส เมื่อวันที่ 1 กันยายน ปี 1969
“แทนที่จะถูกประณามหยามเหยียด ฮอสนี มูบารัค สมควรได้รับการยกย่องมากกว่า” กัดดาฟี กล่าว
มูบารัค วัย 83 ปี ถูกกักขังอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองชาร์ม เอล-ชัยค์ ริมทะเลแดง และจะขึ้นศาลในวันที่ 3 สิงหาคมนี้พร้อมบุตรชายทั้งสอง เพื่อสู้คดีทุจริตคอรัปชั่นและสังหารประชาชน
กัดดาฟี ซึ่งพยายามต้านทานกลุ่มกบฎและการโจมตีทางอากาศของนาโต มานานหลายเดือน เรียกร้องให้ชาวอียิปต์ยึดแบบอย่างทางการเมืองในลิเบีย ซึ่งโดยทฤษฎีแล้วคือระบอบประชาธิปไตยทางตรงที่อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน
ผู้นำลิเบียอ้างอีกว่า ความขัดแย้งที่แผ่ขยายไปทั่วทุกหนแห่งในลิเบียขณะนี้ ไม่ใช่การต่อต้านรัฐบาล แต่เป็น “แผนล่าอาณานิคม” พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาขององค์กรสิทธิมนุษยชนที่ว่าเขาปราบปรามฝ่ายตรงข้ามอย่างโหดร้าย และสังหารผู้ประท้วงไปหลายพันคน
“พวกเขาโกหกท่าน โดยบอกว่า “ลิเบียสังหารพลเมืองตัวเอง เราจึงต้องเข้ามาปกป้องพลเรือน” กัดดาฟี กล่าวถึงปฏิบัติทางอากาศของนาโต ซึ่งเป็นไปตามมติองค์สหประชาชาติที่ต้องการปกป้องผู้บริสุทธิ์จากเงื้อมมือทหารกัดดาฟี
“มีผู้เสียชีวิตแค่ 8 คนเท่านั้น ซึ่งขณะนี้เรากำลังสอบสวนว่าใครสังหารพวกเขา ไม่มีการประท้วง ไม่มีการยิงใดๆเกิดขึ้นทั้งสิ้น ไม่อย่างนั้นก็ลองบอกมาทีว่าศพพลเรือนหลายพันคนที่ว่านั้นถูกฝังไว้ที่ไหน” กัดดาฟีกล่าวท้าทาย