เอเอฟพี - ชาวอินโดนีเซียผู้ต้องมนตร์สะกดแห่ง “แฮร์รี พอตเตอร์” จะได้ชมบทสรุปการผจญภัยในโลกเวทมนตร์ในที่สุด หลังจากภาพยนตร์ชั้นนำของฮอลลีวูดห่างหายจากจอโรงภาพยนตร์อิเหนามานานกว่า 5 เดือน เมื่อทางการกรุงจาการ์ตายอมลดราวาศอกมาตรการขึ้นภาษีภาพยนตร์นำเข้า เพื่อหาทางยุติการคว่ำบาตรจากค่ายภาพยนตร์สหรัฐฯ
นักดูหนังชาวอินโดนีเซีย ยังไม่ได้ชม “แฮร์รี พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต - ภาค 2” รวมทั้งภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่องๆ จนถึงตอนนี้ ตั้งแต่ค่ายภาพยนตร์สหรัฐฯ เริ่มคว่ำบาตรอินโดนีเซีย
“ในที่สุดแฮร์รี พอตเตอร์ กับ กังฟูแพนด้า จะเข้าฉายเสียที เราหวังว่า จะฉายภาพยนตร์ 2 เรื่องนี้ช่วงปลายเดือน” ดอนนี ซาฟรุดดิน ผู้อำนวยการสหภาพบริษัทภาพยนตร์อินโดนีเซีย กล่าว วันนี้ (21) หลังทางการอินโดนีเซียยอมแก้ไขมาตรการภาษีภาพยนตร์นำเข้า
“เราหวังว่าจะไม่มีการบอยคอตแบบนี้เกิดขึ้นอีก”
ซาฟรุดดิน กล่าวว่า โรงภาพยนตร์อินโดนีเซียจะฉายภาพยนตร์ยอดนิยมของฮอลลีวูดหลายเรื่องที่ไม่มีโอกาสได้ฉายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การคว่ำบาตรอินโดนีเซียทำให้ชาวอิเหนาพลาดภาพยนตร์ชั้นนำ อาทิ แบล็ก สวอน, ยอดคนจริง (True Grit) และไพเรตส์ ออฟ เดอะ คาริบเบียน ผจญภัยล่าสายน้ำอมฤตสุดขอบโลก
ข้อพิพาทเริ่มขึ้นเมื่ออินโดนีเซีย ระบุว่า จะเก็บภาษีภาพยนตร์นำเข้าตามรายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิซ ซึ่งทางบริษัทโมชัน พิกเจอร์ แอสโซซิเอชัน (เอ็มพีเอ) ปฏิเสธปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าว เนื่องจากภาษีที่เพิ่มขึ้นมีมูลค่าสูงเกินเหตุ จนนำไปสู่การคว่ำบาตร
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลอินโดนีเซียได้ผ่านระเบียบการเก็บภาษีฉบับใหม่สำหรับภาพยนตร์ต่างประเทศ เพื่อยับยั้งการประท้วงของบริษัทเอ็มพีเอ ซึ่งไม่นำภาพยนตร์ชั้นนำมาฉายยังอินโดนีเซียนานหลายเดือน
ทั้งนี้ บริษัทเอ็มพีเอเป็นตัวแทนของค่ายภาพยนตร์สหรัฐฯ ทั้งวอร์เนอร์ บรอส, ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ และทเวนตีธ์เซนจูรีฟ็อกซ์ ในอินโดนีเซีย