เอเอฟพี - การมาของฤดูร้อนปีนี้ส่งผลให้สหรัฐฯ ต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนมีผู้เสียชีวิตแล้วนับสิบราย ขณะที่สภาวะอากาศรุนแรงนำพาทั้งคลื่นความร้อนและความชื้นมาสู่ 17 รัฐทั่วประเทศ
สภาพอากาศที่ร้อนจัดเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 รายทางตอนกลางของสหรัฐฯ ซึ่งมีอุณหภูมิสูงเกิน 100 องศาฟาเรนไฮต์ (37.7 องศาเซลเซียส) มานานหลายวัน นอกจากนี้ปริมาณความชื้นในอากาศยังสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งนักอุตุนิยมวิทยาระบุว่าจะยังเป็นเช่นนี้ต่อไปจนถึงสัปดาห์หน้า
โฆษกสำนักอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมามีผู้แจ้งรายงานสภาพอากาศร้อนจัดมากกว่า 1,000 ครั้ง
คาดกันว่ารัฐตอนกลางอย่างอิลลินอยส์ และอินดีแอนา จะมีอุณหภูมิเพิ่มสูงถึง 115 องศาฟาเรนไฮต์ (46 องศาเซลเซียส) ภายในวันพฤหัสบดี (21) ขณะที่นครชิคาโกอาจเผชิญคลื่นความร้อนสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก สำนักอุตุนิยมวิทยาระบุ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชิคาโกได้ประกาศเตือนประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ, เด็กเล็ก และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ให้ระวังอันตรายจากอากาศร้อนจัดแล้ว
ที่รัฐโอกลาโฮมา ความร้อนระอุส่งผลให้พื้นถนนบางสายเริ่มละลาย ส่วนประชาชนอีกหลายสิบคนมีอาการป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล ขณะที่รัฐมินนิโซตาซึ่งมีอากาศอบอุ่นเป็นส่วนใหญ่ก็ต้องเผชิญความร้อนถึง 50 องศาเซลเซียส
ด้านชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ก็เริ่มรู้สึกถึงสภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งคาดว่าจะแผ่ลามไปถึงนครนิวยอร์ก, กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และเมืองอื่นๆ ภายในกลางสัปดาห์นี้
สภาพอากาศที่ร้อนจัดเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 รายทางตอนกลางของสหรัฐฯ ซึ่งมีอุณหภูมิสูงเกิน 100 องศาฟาเรนไฮต์ (37.7 องศาเซลเซียส) มานานหลายวัน นอกจากนี้ปริมาณความชื้นในอากาศยังสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งนักอุตุนิยมวิทยาระบุว่าจะยังเป็นเช่นนี้ต่อไปจนถึงสัปดาห์หน้า
โฆษกสำนักอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมามีผู้แจ้งรายงานสภาพอากาศร้อนจัดมากกว่า 1,000 ครั้ง
คาดกันว่ารัฐตอนกลางอย่างอิลลินอยส์ และอินดีแอนา จะมีอุณหภูมิเพิ่มสูงถึง 115 องศาฟาเรนไฮต์ (46 องศาเซลเซียส) ภายในวันพฤหัสบดี (21) ขณะที่นครชิคาโกอาจเผชิญคลื่นความร้อนสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก สำนักอุตุนิยมวิทยาระบุ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชิคาโกได้ประกาศเตือนประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ, เด็กเล็ก และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ให้ระวังอันตรายจากอากาศร้อนจัดแล้ว
ที่รัฐโอกลาโฮมา ความร้อนระอุส่งผลให้พื้นถนนบางสายเริ่มละลาย ส่วนประชาชนอีกหลายสิบคนมีอาการป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล ขณะที่รัฐมินนิโซตาซึ่งมีอากาศอบอุ่นเป็นส่วนใหญ่ก็ต้องเผชิญความร้อนถึง 50 องศาเซลเซียส
ด้านชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ก็เริ่มรู้สึกถึงสภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งคาดว่าจะแผ่ลามไปถึงนครนิวยอร์ก, กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และเมืองอื่นๆ ภายในกลางสัปดาห์นี้