เอเอฟพี/การ์เดียน - แฮกเกอร์กลุ่ม “ลัลซ์ ซิเคียวริตี” เล่นงานเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์เดอะซัน สื่อในเครือของรูเพิร์ต เมอร์ด็อก เมื่อวันจันทร์ (18) ด้วยการเปลี่ยนข่าวพาดหัวเสียใหม่ ว่า มหาเศรษฐีเจ้าของสมญานาม “บารอนสื่อ” ผู้นี้เสียชีวิตลงแล้ว
เดอะซัน กุลีกุจอลบรายงานชิ้นดังกล่าว ซึ่งกลุ่มแฮกเกอร์อุปโลกน์ข้อมูลขึ้นมา ว่า รูเพิร์ต เมอร์ด็อก เจ้าพ่อสื่อวัย 80 ปี ถูกพบเป็นศพอยู่ภายในสวนของตัวเอง หลังจากกลืน แพลเลเดียม ธาตุโลหะหายากชนิดหนึ่งเข้าสู่ร่างกาย เมื่อผู้อ่านพยายามรีเฟรชหน้าเว็บไซต์ดังกล่าว เว็บไซต์เดอะซันจะลิงก์ไปยังทวิตเตอร์ของกลุ่มลัลซ์ ซิเคียวริตี ทันที
ทั้งนี้ การแฮกเว็บไซต์เดอะซัน เป็นการโจมตีเว็บไซต์ข่าวสำคัญๆ ของอังกฤษเป็นครั้งแรก
ลัลซ์ ซิเคียวริตี ยังอ้างว่า ได้แฮกเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ของบริษัท นิวส์ อินเตอร์เนชันแนล บริษัทแม่ของหนังสือพิมพ์เดอะซัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่เทคนิคของนิวส์ อินเตอร์เนชันแนล จะตัดสินใจระงับหน้าบริการของเว็บไซต์ต่างๆ ของหนังสือพิมพ์เดอะไทมส์ อีกหนึ่งสื่อในเครือของเมอร์ด็อก ชั่วคราวเพื่อเป็นการป้องกันการถูกโจมตี
“เราได้ยึดเดอะซัน และ นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ แล้ว นี่เพิ่งเป็นขั้นตอนแรกเท่านั้น เตรียมใจไว้เลย ลัลซ์จะแผลงฤทธิ์อีกเร็วๆ นี้” กลุ่มลัลซ์ ซิเคียวริตี ประกาศเตือนผ่านทางทวิตเตอร์
ข้อความเย้ยหยันอีกหนึ่งข้อความ ยังระบุว่า “เรามีความสุข เราสนุก ที่ได้ป่วนเดอะซันของเมอร์ด็อก”
โฆษกหญิงของบริษัท นิวส์ อินเตอร์เนชันแนล ออกมาแถลงว่า ทางบริษัททราบเรื่องการที่เกิดขึ้นแล้ว
แฮกเกอร์ ลัลซ์ ซิเคียวริตี ทิ้งท้ายไว้ว่า “กำลังกุมข้อมูลอีเมลของพวกเขา (เดอะซัน) อยู่” และเตรียมเปิดโปงเพิ่มเติมในวันนี้ (19) โดยโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ อ้างว่า มีอีเมลของ รีเบกาห์ บรูกส์ อดีตประธานบริหารของ นิวส์ อินเตอร์เนชันแนล ที่เพิ่งประกาศลาออกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และยังล่วงรู้ถึงรหัสผ่านของอีเมลดังกล่าว
กลุ่มลัลซ์ ซิเคียวริตี เป็นที่จับจ้องในวงการแฮกเกอร์ หลังก่อเหตุป่วนโลกไซเบอร์ต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นโซนี หรือ นินเทนโด แม้กระทั่งเว็บไซต์สำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) และวุฒิสภาสหรัฐฯ ก็เคยตกเป็นเหยื่อเช่นกัน