เอเอฟพี - คณะนักการทูตสหรัฐฯ ได้พบปะหารือกับคณะตัวแทนของ มูอัมมาร์ กัดดาฟี เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้ส่งสาสน์เรียกร้องไปยังผู้นำลิเบียให้สละอำนาจ เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม เปิดเผยวานนี้ (18)
การประชุมวาระพิเศษสหรัฐฯ-ลิเบีย มีขึ้นเมื่อวันเสาร์ (16) ที่ผ่านมา หนึ่งวันหลังจากสหรัฐฯ ชาติตะวันตก และมหาอำนาจในภูมิภาคแอฟริกา ประกาศยอมรับ “สภาถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติ” ของกลุ่มกบฏลิเบียในฐานะผู้ปกครองที่ชอบด้วยกฎหมาย
คณะนักการทูตสหรัฐฯ “ได้พบปะกับคณะตัวแทนจากลิเบียเพื่อส่งสาสน์ที่ชัดเจน ว่า หนทางเดียวสำหรับกัดดาฟี คือ การสละอำนาจ” เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ผู้นี้เปิดเผยกับเอเอฟพีจากกรุงวอชิงตัน “การพบปะครั้งนี้ไม่ใช่การเจรจา แต่เป็นการส่งข้อความ … เราไม่มีแผนนัดหมายกันอีก เพราะข้อความได้รับการถ่ายทอดแล้ว”
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อีกรายหนึ่ง กล่าวระหว่างร่วมทีมกับ ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ปฏิบัติภารกิจในอินเดีย ว่า เจ้าหน้าสหรัฐฯ ที่เข้าร่วมการประชุมกับลิเบีย มีทั้ง เจฟฟรีย์ เฟลต์แมน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศฝ่ายกิจการตะวันออกใกล้ และ จีน เครตซ์ ทูตสหรัฐฯ ประจำลิเบีย
แหล่งข่าวรายนี้ไม่ได้ระบุว่า คณะตัวแทนจากลิเบีย ประกอบไปด้วยใครบ้าง หรือ การประชุมดังกล่าวมีขึ้นที่ใด โดยเปิดเผยเพียงว่าสถานที่พบปะอยู่นอกลิเบีย
อย่างไรก็ตาม มุสซา อิบราฮิม โฆษกรัฐบาลกัดดาฟี ในกรุงตริโปลี ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่า การเจรจาดังกล่าวมีขึ้นในตูนิเซีย และอธิบายว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการเริ่มต้นกระบวนการทางการทูต
“มันเป็นก้าวแรกของการเจรจา” โฆษกอิบราฮิมกล่าวไว้
ชาติตะวันตกและประเทศมหาอำนาจในภูมิภาคแอฟริกาได้ประชุมร่วมกันว่าด้วยเรื่องลิเบีย ณ กรุงอิสตันบูล ตุรกี เมื่อวันศุกร์ (15) โดยได้ข้อสรุปว่ากบฏลิเบียมีฐานะผู้ปกครองประเทศโดยชอบธรรม การตัดสินใจดังกล่าวทำให้ฝ่ายกบฏสามารถเข้าถึงกองทุนกู้ยืมสำคัญๆ ได้
ทั้งนี้ สหรัฐฯ และลิเบียได้แลกเปลี่ยนนักการทูตระหว่างกันเมื่อปี 2009 เป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี เนื่องจากทั้งสองประเทศพยายามสานความสัมพันธ์ที่บาดหมางมายาวนาน โดยชาติตะวันตกสงสัยว่ากัดดาฟีให้การสนับสนุนการก่อการร้าย
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างลิเบียกับชาติตะวันตกพังทลายลงอย่างรวดเร็ว หลังจากกัดดาฟีตอบโต้กลุ่มกบฏด้วยความรุนแรงเมื่อช่วงต้นปี สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงตริโปลีก็ปิดทำการตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ขณะเดียวกัน กรุงวอชิงตันได้บังคับใช้มาตรการลงโทษและอายัดทรัพย์สินของรัฐบาลลิเบีย