เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เล่นงาน “อาเมอร์ โฮลดิง” บริษัทผลิตอุปกรณ์ป้องกันภัย ด้วยการปรับเงินมูลค่า 16 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 480 ล้านบาท) เมื่อวันพุธ (13) ฐานติดสินบนเจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติ แลกเปลี่ยนกับสัญญาสั่งซื้อเสื้อเกราะกันกระสุนจากทางบริษัทให้กับกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็น
มีการตกลงยอมรับผิดตามข้อกล่าวหา ภายใต้กฎหมายว่าด้วยพฤติกรรมทุจริตในต่างประเทศของสหรัฐฯ โดยบริษัท อาเมอร์ โฮลดิง ในเครือของบีเออี ซิสเทมส์ ผู้ผลิตยุทโธปกรณ์และอากาศยานสัญชาติอังกฤษ ตกลงจ่ายค่าชดเชยให้กับกระทรวงยุติธรรมมูลค่า 10.3 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 300 ล้านบาท) และอีกก้อนหนึ่งมูลค่า 5.7 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 170 ล้านบาท) ให้กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ตามข้อตกลงจากคดีนี้
“การจ่ายเงินเจ้าหน้าที่ยูเอ็นโดยมิชอบไม่ได้น่าตำหนิน้อยไปกว่าการติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศ” โรเบิร์ต คูซามี ผู้อำนวยการกองบังคับใช้กฎหมายของ ก.ล.ต.สหรัฐฯ กล่าว
“กระบวนการสำคัญในการเลือกเสื้อเกราะกันกระสุนสำหรับเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพไม่ควรตัดสินโดยวัดจากเงินสินบนว่าบริษัทไหนจ่ายมากที่สุด”
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงปี 2001-2006 ก่อนหน้าที่ บีเออี ซิสเทมส์ บริษัทผลิตอาวุธรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ได้เข้าฮุบกิจการของอาเมอร์ โฮลดิง ซึ่งถูกกล่าวหาว่ายัดเงินใต้โต๊ะมูลค่า 6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 180 ล้านบาท) ให้กับเจ้าหน้าที่ยูเอ็นกลุ่มหนึ่งเพื่อให้ได้สัญญาส่งเสื้อเกราะกันกระสุนให้กองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็น
ข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า บริษัท อาเมอร์ โฮลดิง ยอมรับว่า มีบริษัทสาขาย่อยในอังกฤษอีกแห่งหนึ่งจัดการเรื่องการจ่ายเงินจำนวนมากกว่า 200,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 6 ล้านบาท) ให้กับตัวแทนอิสระรายหนึ่งเพื่อจุดประสงค์ในการได้ทำสัญญากับยูเอ็น
“นอกจากนี้ อาเมอร์ ยอมรับว่า ยังมีเงินเพิ่มเติมอีกประมาณ 4.4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 132 ล้านบาท) ที่ไม่ได้ลงบันทึกไว้ ได้จ่ายให้กับตัวแทนต่างๆ และคนกลาง เพื่อช่วยให้ได้ทำการค้ากับรัฐบาลต่างชาติ” กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แถลง
ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรม พร้อมทั้งคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ช่วยหาทางตกลงกับผู้รับผิดชอบการฟ้องคดีอาญา แลกเปลี่ยนการยอมรับข้อกล่าวหาของบริษัทอาเมอร์ โฮลดิง และการจ่ายค่าชดเชยให้กับทั้งสองหน่วยงานของรัฐรวมกันจำนวน 16 ล้านดอลลาร์