เอเจนซี - ฟ้าผ่าลงโรงเรียนแห่งหนึ่งในยูกันดา คร่าชีวิตเด็กนักเรียน 18 รายและครู 1 คน ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศแห่งนี้ จนนำไปสู่การโต้เถียงในรัฐสภา ที่หลายฝ่ายเรียกร้องรัฐบาลหามาตรการรับมือให้ดีกว่าที่เป็นอยู่
ข้อมูลขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลกระบุว่ายูกันดา เป็นหนึ่งในชาติที่มีอัตราผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่าสูงที่สุดในโลก ขณะที่กรุงกัมปาลา มีอัตราฟ้าผ่าเฉลี่ยต่อปีมากกว่าเมืองอื่นๆ
เหตุการณ์ล่าสุดนี้ตำรวจเปิดเผยว่าฟ้าได้ผ่าลง ณ ชั้นเรียนห้องหนึ่งของโรงเรียนในเมืองคีร์ยานดอนโก ห่างจากกรุงกัมปาลา ไปทางเหนือ 210 กิโลเมตร จนทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าวและมีเด็กนักเรียนอีก 38 รายที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
เหตุเสียชีวิตจากการถูกฟ้าผ่าถูกหยิบยกเข้าอภิปรายในรัฐสภาเมื่อวันจันทร์(27) โดย ส.ส.หลายคน เรียกร้องรัฐบาลออกมาตรการรับมือกับสิ่งที่พวกเขาให้คำจำกัดความว่า "วิกฤต" ของชาติ
"ผมไม่รู้ว่ารัฐมนตรีกระทรวงไหนมีหน้าที่ดูแลฟ้าผ่า แต่รัฐบาลควรมีคำแถลงแจ้งต่อประชาชนว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นและเราควรรับมือมันอย่างไร" รีเบคกา คาดากา ประธานรัฐสภากล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นตำหนิการทำงานของรัฐบาลที่ไม่ได้ติดตั้งสายล่อฟ้าตามอาคารต่างๆในจุดที่ผจญพายุฝนฟ้าคะนองบ่อยครั้งอย่างเพียงพอ
"เมื่อวันจันทร์(27) มีผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่าครั้งเดียว 19 คน" โฆษกตำรวจบอก "พวกเขาออกจากโรงเรียนไปแล้ว แต่ด้วยที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก จึงกลับเข้าไปหลบฝนในห้องเรียน จากนั้นฟ้าก็ผ่าลงมาอย่างทันทีทันใด"
ตำรวจเปิดเผยต่อว่าในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ 38 คน มีอยู่ 15 รายที่ยังต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ขณะที่สื่อมวลชนท้องถิ่นอ้างคำสัมภาษณ์ของแพทย์ระบุว่าอาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งรายงานเมื่อวันอังคาร(28) ว่ามีประชาชนอย่างน้อย 40 รายถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ในจำนวนนั้นรวมไปถึงเด็กผู้หญิง 3 รายอายุระหว่าง 4 ถึง 8 ปี ที่ถูกฟ้าผ่าตายขณะหลบฝนอยู่ใต้ต้นไม้ระหว่างเดินทางกลับบ้าน
ข้อมูลขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลกระบุว่ายูกันดา เป็นหนึ่งในชาติที่มีอัตราผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่าสูงที่สุดในโลก ขณะที่กรุงกัมปาลา มีอัตราฟ้าผ่าเฉลี่ยต่อปีมากกว่าเมืองอื่นๆ
เหตุการณ์ล่าสุดนี้ตำรวจเปิดเผยว่าฟ้าได้ผ่าลง ณ ชั้นเรียนห้องหนึ่งของโรงเรียนในเมืองคีร์ยานดอนโก ห่างจากกรุงกัมปาลา ไปทางเหนือ 210 กิโลเมตร จนทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าวและมีเด็กนักเรียนอีก 38 รายที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
เหตุเสียชีวิตจากการถูกฟ้าผ่าถูกหยิบยกเข้าอภิปรายในรัฐสภาเมื่อวันจันทร์(27) โดย ส.ส.หลายคน เรียกร้องรัฐบาลออกมาตรการรับมือกับสิ่งที่พวกเขาให้คำจำกัดความว่า "วิกฤต" ของชาติ
"ผมไม่รู้ว่ารัฐมนตรีกระทรวงไหนมีหน้าที่ดูแลฟ้าผ่า แต่รัฐบาลควรมีคำแถลงแจ้งต่อประชาชนว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นและเราควรรับมือมันอย่างไร" รีเบคกา คาดากา ประธานรัฐสภากล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นตำหนิการทำงานของรัฐบาลที่ไม่ได้ติดตั้งสายล่อฟ้าตามอาคารต่างๆในจุดที่ผจญพายุฝนฟ้าคะนองบ่อยครั้งอย่างเพียงพอ
"เมื่อวันจันทร์(27) มีผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่าครั้งเดียว 19 คน" โฆษกตำรวจบอก "พวกเขาออกจากโรงเรียนไปแล้ว แต่ด้วยที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก จึงกลับเข้าไปหลบฝนในห้องเรียน จากนั้นฟ้าก็ผ่าลงมาอย่างทันทีทันใด"
ตำรวจเปิดเผยต่อว่าในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ 38 คน มีอยู่ 15 รายที่ยังต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ขณะที่สื่อมวลชนท้องถิ่นอ้างคำสัมภาษณ์ของแพทย์ระบุว่าอาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งรายงานเมื่อวันอังคาร(28) ว่ามีประชาชนอย่างน้อย 40 รายถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ในจำนวนนั้นรวมไปถึงเด็กผู้หญิง 3 รายอายุระหว่าง 4 ถึง 8 ปี ที่ถูกฟ้าผ่าตายขณะหลบฝนอยู่ใต้ต้นไม้ระหว่างเดินทางกลับบ้าน