เอเอฟพี - โทชิโอะ นิชิซาวา ประธานบริษัทโตเกียวอิเล็กทริกพาวเวอร์ หรือเท็ปโก คนใหม่วางแผนจะใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) เป็นแหล่งพลังงานหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้าในอนาคต หลังเกิดวิกฤตนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ
นิชิซาวาให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์นิกเกอิ ฉบับวันพุธ (29) ว่า เครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานความร้อนโดยใช้ก๊าซแอลเอ็นจีจะเป็นส่วนสำคัญสำหรับโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าในอีก 10 ปีข้างหน้า
นิชิซาวา ซึ่งขึ้นเป็นประธานเท็ปโกในวันอังคาร (28) ที่ผ่านมา หลังการลาออกของมาซาทากะ ชิมิซุ เมื่อเดือนพฤษภาคม ได้บอกกับนิกเกอิว่า ในอนาคต บริษัทจะพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งปัจจุบันผลิตกระแสไฟฟ้า 30% ของทั้งหมด ให้น้อยลงหลังเกิดอุบัติเหตุที่ฟูกูชิมะ
เขาเสริมว่า การใช้งานเครื่องกำเนิดพลังงานความร้อนด้วยก๊าซแอลเอ็นจีจะเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันเป็นมากกว่า 40%
ในปัจจุบัน เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของเท็ปโกถูกใช้งานเพียง 4 เครื่องจากทั้งหมด 17 เครื่อง โดยเตาปฏิกรณ์ทั้งหมด 6 เครื่องที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ หมายเลข 1 นั้นหยุดทำการไปแล้ว ส่วนอีก 4 เครื่องในฟูกูชิมะ คอมเพล็กซ์ก็ไม่สามารถใช้งานได้ หลังแผ่นดินไหว และสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์อีก 3 เครื่องจากทั้งหมด 7 เครื่องที่โรงไฟฟ้าคาชิวาซากิ คาริวะ ก็ถูกระงับการใช้งานมาตั้งแต่เหตุแผ่นดินไหวปี 2007 หลังจากที่ญี่ปุ่นส่งเสริมการซื้อก๊าซแอลเอ็นจี ซึ่งส่งผลให้ราคาในตลาดสูงขึ้น
เท็ปโกวางแผนจะนำโรงไฟฟ้าพลังงานจากก๊าซแอลเอ็นจีเข้าสู่กระบวนการผลิตก่อนกำหนด เพื่อให้บรรลุตามแผนที่วางไว้
ในการให้สัมภาษณ์ นิชิซาวายังแสดงความตั้งใจที่จะเข้าร่วมโครงการของออสเตรเลีย เพื่อรับประกันปริมาณการใช้ก๊าซแอลเอ็นจี ประมาณ 20% ต่อปี