เอเอฟพี - ชาวฟิลิปปินส์ราว 50,000 คนต้องทิ้งบ้านเรือนไปอาศัยอยู่ในศูนย์ผู้ประสบภัย วันนี้(24) หลังพายุโซนร้อนมิอะริ (Meari) ทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน เจ้าหน้าที่เผย
ชาวกรุงมะนิลากว่า 3,200 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนในชั่วข้ามคืน เนื่องจากพายุฝนฟ้าคะนองทำให้ฤดูมรสุมปีนี้ทวีความรุนแรงขึ้น จนน้ำท่วมถนนทั้งเมือง หน่วยป้องกันพลเรือน ระบุ
เบนิโต รามอส ผู้อำนวยการสภาจัดการและลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า การอพยพประชาชนในเมืองหลวงเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิต
“โชคดีที่เราเตรียมเรือยางไว้ล่วงหน้า และประชาชนก็ให้ความร่วมมือดีมาก เมื่อเราบอกให้อพยพ พวกเขาก็ปฏิบัติตามทันที” รามอส กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้สูญหายอีก 11 คนในคาบสมุทรไบคอลบนเกาะลูซอน ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากพายุโซนร้อนมิอะริที่พัดผ่านภาคตะวันออกของฟิลิปปินส์ สภาจัดการและลดความเสี่ยงภัยพิบัติ เผย
ผู้สูญหาย 10 คนเป็นชาวประมงบนเกาะคาตันดูอาเนส ที่ออกเรือไปหาปลาก่อนที่พายุโซนร้อนมิอะริจะพัดเข้าฝั่ง ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นผู้หญิงที่ถูกกระแสน้ำเชี่ยวกรากพัดพาไป
ฝนที่ตกต่อเนื่องมาตลอดทั้งสัปดาห์เริ่มทวีความรุนแรงวานนี้(23) ทำให้ประชาชนต้องเร่งอพยพออกจากที่พักอาศัย ด้วยเกรงจะเกิดอุทกภัยหรือดินถล่ม
โรงเรียนในกรุงมะนิลาส่วนใหญ่ปิดทำการในวันนี้(24) เนื่องจากกระแสน้ำพัดพาซากปรักหักพังไปกีดขวางเส้นทางสัญจรในเมือง
สำนักอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์รายงานว่า พายุโซนร้อนมิอะริมีกำลังแรงขึ้น และกำลังมุ่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือสู่ไต้หวันด้วยความเร็วลม 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง