เอเอฟพี/เอเจนซี - ลือนายกรัฐมนตรีกรีซ ยื่นข้อเสนอลาออก เปิดทางรัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาติตามหลังการประท้วงครั้งใหญ่ต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่ที่เลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรงเมื่อวันพุธ(15) ขณะที่ประเทศกำลังโซเซสู่ภาวะล้มละลาย ทว่าท้ายที่สุดนายจอร์จ ปาปันเดรอู ตัดสินใจเลือกแนวทางปรับคณะรัฐมนตรีก่อนหน้าการลงมติครั้งสำคัญ หลังข้อเสนอของเขาถูกฝ่ายค้านปฏิเสธอย่างไม่ใยดี
เบื้องต้นแหล่งข่าวระดับสูงในรัฐบาลเปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันเดรอู บอกกับแกนนำฝ่ายค้านอนุรักษ์นิยมว่าเขามีความตั้งใจลาออก หากว่าคณะรัฐบาลสมานฉันท์อนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดแพ็จเกจใหม่ตามเงื่อนไขของอียูและไอเอ็มเอฟ
"นายกรัฐมนตรีปาปันเดรอู พูดคุยกับนาย(อันโตนิส) ซามาราส วันนี้และยื่นข้อเสนอดังกล่าว และหากทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต่อร่างพันธสัญญาสำหรับเปลี่ยนแปลงประเทศและระบบทางการเมือง รวมถึงเป้าหมายเฉพาะอื่นๆ เขาก็จะลาออกจากตำแหน่ง" แหล่งข่าวระดับสูงในรัฐบาลกล่าว
แต่ก็มีข่าวอีกกระแสว่ารัฐสภาอาจลงมติอนุมัติแผนรัดเข็มขัดมูลค่า 2.8 หมื่นล้านยูโรในช่วงปลายเดือนนี้ แลกเปลี่ยนกับเงินช่วยเหลือจากยูโรและไอเอ็มเอฟ หลังจากรัฐบาลยินยอมผ่อนปรนข้อกำหนดบางอย่าง
มีข้อสงสัยว่าแผนรัดเข็มขัดนี้จะผ่านสภาหรือไม่ หลังจากเมื่อวันอังคาร(14) ส.ส.คนหนึ่งของพรรคสังคมนิยม PASOK แปรพักต์ ทำให้จำนวน ส.ส.ของฝ่ายรัฐบาลเหลือ 155 เก้าอี้จาก 300 ที่นั่ง ส่วนอีกคนก็บอกว่าจะคัดค้านแผนดังกล่าว ทำให้การลงมติเกิดความไม่แน่นอน ความกดดันจึงถาโถมเข้าใส่นายกรัฐมนตรี
ทว่าหลังนายจอร์จ ปาปาคอนสแตนติโนอู รัฐมนตรีคลัง เข้าพบ 35 ส.ส.จากพรรค PASOK เมื่อวันพุธ(15) และหนึ่งใน ส.ส.เปิดเผยว่า ปาปาคอนสแตนติโนอู เสนอผ่อนปรนบางมาตรการลง อาทิไม่ขึ้นภาษีน้ำมันทำความร้อนและรักษาเพดานข้อยกเว้นไม่เสียภาษีทรัพย์สินไว้ ณ 200,000 ยูโรตามเดิม แทนที่จะเป็น 100,000 ยูโรตามข้อเสนอใหม่
อย่างไรก็ตามกระแสความคาดเดาต่างๆนาๆข้างต้นก็หมดไป เมื่อนายปาปันเดรอู ออกมาแถลงปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงค่ำ ก่อนหน้าการลงมติครั้งสำคัญต่อมาตรการรัดเข็มขัดรอบล่าสุด "ผมจะตั้งรัฐบาลใหม่ในวันพรุ่งนี้(16)และจะขอให้ลงมติไว้วางใจในทันที" เขากล่าวผ่านโทรทัศน์ "เราจะยังคงอยู่บนถนนเดียวกัน ถนนแห่งหน้าที่ความรับผิดชอบ"
คำแถลงปรับคณะรัฐมนตรีของนายปาปันเดรอู มีขึ้นหลังจากมีรายงานว่าข้อเสนอให้ฝ่ายค้านเข้าร่วมรัฐบาลของเขาถูกปฏิเสธจากฝ่ายค้านอนุรักษ์นิยมโดยสิ้นเชิง
ความเคลื่อนไหวอย่างเร่งด่วนนี้มีขึ้นหลังจากรัฐมตรีคลังยูโรโซน ยังไม่สามารถตกลงกันได้ต่อกรณีเจ้าหนี้ภาคเอกชนควรให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซด้วยหรือไม่ โดยเยอรมนี ยังคงคัดค้านการปล่อยเงินให้แก่กรีซเพิ่มเติม ถ้าหากไม่มีเงื่อนไขพ่วงอย่างเช่นพวกเจ้าหนี้ภาคเอกชนก็ต้องยอมร่วมให้ความช่วยเหลือแก่กรีซด้วย ขณะที่เจ้าหน้าระดับสูงของอียูระบุข้อถกเถียงนี้คงยังไม่สามารถตกลงกันได้ ณ ที่ประชุมในสัปดาห์หน้าและดูเหมือนว่าอาจต้องล่าช้าออกไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม
มวลชนผู้โกรธกริ้วหลายหมื่นคนเดินขบวนครั้งใหญ่ด้านนอกรัฐสภาเมื่อวันพุธ(15) เพื่อคัดค้านการลดค่าใช้จ่ายอย่างรุนแรงของรัฐบาลเพื่อได้รับอนุมัติเงินช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟ
ระหว่างการชุมนุมนั้น พวกก่อจลาจลขว้างปาระเบิดเพลิงเข้าใส่กระทรวงการคลัง ส่วนตำรวจก็ยิงแก๊สน้ำตาตอบโต้ผู้ประท้วงในเหตุปะทะกันที่จตุรัสซีนทักมา หลังจากผู้ชุมนุมพยายามปิดล้อมรัฐสภาขัดขวางไม่ให้ส.ส.ลงมติรับมาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่อันประกอบด้วยการขึ้นภาษี ลดค่าใช้จ่ายและขายทรัพย์สินของรัฐ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 12 ราย
กรีซบอกว่าพวกเขาไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณต่างๆสำหรับเดือนหน้าได้หากไม่ได้รับเงินช่วยเหลืออีกงวดจำนวน 1.2 หมื่นล้านยูโรจากอียูและไอเอ็มเอฟ ส่วนหนึ่งในแพกเกจช่วยเหลือ 1.1 แสนล้านยูโรที่ได้รับอนุมัติไปเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหนี้เตือนว่าจะไม่ให้เงินกู้ก้อนที่เหลือในอนาคตอันใกล้นี้หากไม่มีคำมั่นปฏิรูปงบประมาณอย่างหนักแน่นมาจากเอเธนส์