เอเจนซี/เอเอฟพี - ภูเขาไฟที่เงียบสงบมานานกว่า 150 ปีในเอริเทรีย ประเทศในแอฟริกา ปะทุขึ้นมาเมื่อวันอาทิตย์ (12) หลังเจอแผ่นดินไหวหลายระลอก พร้อมส่งเถ้าถ่านปลิวว่อนสู่อากาศสูงกว่า 13.5 กิโลเมตร ก่อความวุ่นวายด้านการจราจรทางอากาศในภูมิภาค
ศูนย์ให้คำแนะนำด้านเถ้าถ่านภูเขาไฟ (VAAC) ซึ่งตั้งอยู่ในฝรั่งเศส ระบุว่าภูเขาไฟลูกนี้ปะทุขึ้นเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ (12) (ตรงกับเมืองไทย 04.00 น.เช้าวันจันทร์) หลังประเทศเอริเทรีย ซึ่งมีชายแดนติดกับเอเธิโอเปีย ถูกแผ่นดินไหวเล่นงานหลายระลอกในเช้าวันเดียวกัน ขณะที่สถาบันวิจัยภูมิศาสตร์ของสหรัฐฯ ระบุว่าครั้งที่หนักหน่วงที่สุดวัดความรุนแรงได้ 5.7
เชื่อกันว่า ภูเขาไฟนาโบร ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงแอสมารา เมืองหลวงของเอริเทเรีย ไปทางเหนือ 350 กิโลเมตร และห่างจากเมืองเมเคลเล ทางตะวันออกของเอธิโอเปีย 223 กิโลเมตร ปะทุครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1861
เว็บไซต์ earthquake.com ซึ่งสังเกตการณ์แผ่นดินไหวอ้างคำสัมภาษณ์ของชาวบ้านในพื้นที่ยืนยันว่าภูเขาไฟอีกลูกที่อยู่ใกล้เคียงกันที่ชื่อว่า นาโบร ก็กำลังปะทุและพ่นเถ้าถ่านสู่ท้องฟ้าเช่นกัน
“กลุ่มควันเถ้าถ่านของภูเขาไฟกำลังปกคลุมทั่วกรุงแอสมาราเมื่อเช้านี้ แต่ตอนนี้มันเริ่มเบาบางแล้ว” ชาวบ้านรายหนึ่งบอก ทั้งนี้ ทาง VAAC ระบุว่าเถ้าถ่านจากภูเขาไฟดับบี ลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศเป็นความสูงกว่า 13.5 กิโลเมตร ขณะที่สื่อมวลชนเอธิโอเปีย ออกคำเตือนประชาชนให้ปกป้องตนเองจากผลกระทบของเถ้าถ่านภูเขาไฟลูกนี้
นายฌอง นิโคลัว จากศูนย์อุตุนิยมวิทยาของฝรั่งเศส ซึ่งดูแลศูนย์ให้คำแนะนำด้านเถ้าถ่านภูเขาไฟประจำภูมิภาคยุโรปและแอฟริกา ระบุว่า จากภาพถ่ายทางดาวเทียม เราพบว่าเถ้าถ่านภูเขาไฟลอยสู่ระดับความสูงราว 13 ถึง 15 กิโลมเตร อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินเหมือนกับเหตุภูเขาไฟปะทะในไอซ์แลนด์ เพราะว่าการจราจรทางอากาศบนน่านฟ้าแถบนี้ไม่ค่อยมีความสำคัญนัก
กระนั้นก็ตาม เถ้าถ่านของภูเขาไฟลูกนี้ส่งผลให้ทางนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ลดกำหนดการเดินทางเยือนแอริฟาลงเมื่อวันจันทร์ (13) หลังมีความกังวลว่าเถ้าถ่านอาจเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่ที่แอดิสอาบาบา