เอเจนซี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นวานนี้ (7) จากดอลลาร์ที่อ่อนค่า และความกังวลต่อเหตุความไม่สงบตะวันออกกลาง ก่อนหน้าการประชุมของโอเปกช่วงกลางสัปดาห์ ขณะที่วอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบๆ หลังประธานเฟดยอมรับว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัว
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 9 เซ็นต์ ปิดที่ 99.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 116.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์ก คือ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร ส่วนที่ตลาดลอนดอนนั้นราคาน้ำมันตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากเหตุความไม่สงบในตะวันออกกลาง ทั้งลิเบีย และเยเมนที่ก่อความกังวลต่ออุปทาน
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันเมื่อวันอังคาร (7) มีขึ้นก่อนหน้าที่กลุ่มประเทศโอเปกซึ่งผลิตน้ำมันดิบคิดเป็นร้อยละ 40 ของโลกจะประชุมกันที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันพุธ (8) ท่ามกลางความกังวลว่าราคาน้ำมันระดับสูงอาจกัดเซาะการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และอุปทานทางพลังงาน
ด้าน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้(7) แกว่งตัวลงไปในแดนลบ หลัง เบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ยอมรับว่าเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัวและไม่บ่งชี้ว่าเฟดกำลังพิจารณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อกระตุ้นการเติบโต อย่างไรก็ตาม ก่อนปิดตลาด วอลล์สตรีทก็ดีดกลับมาปิดบวกในกรอบแคบๆ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 9.61 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,099.57 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 4.54 จุด (0.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,707.10 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.84 จุด (1.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,288.01 จุด