เอเอฟพี - ดมิตรี เมดเวเดฟ ประธานาธิบดีรัสเซีย ยังคงปล่อยให้ประชาชนต้องคาดคะเนกันต่อไปว่าเขาจะลงชิงเก้าอี้ผู้นำประเทศในปี 2012 เป็นสมัยที่สองหรือไม่ เพียงแต่เปรยออกมาว่าอาจประกาศการตัดสินใจในเร็วๆ นี้ ระหว่างการแถลงข่าวที่มีสื่อมวลชนเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 800 คน วันนี้ (18)
ทั้งนี้ มีเสียงลือกันไปต่างๆ นานาว่าระหว่างเมดเวเดฟกับนายกรัฐมนตรีวลาดิมีร์ ปูติน ใครจะลงรับเลือกตั้งในปีหน้า การแถลงข่าว ณ ศูนย์เทคโนโลยีสคอลโคโว วันนี้ สื่อจำนวนมากจึงคาดหวังว่า เมดเวเดฟอาจเปิดเผยเรื่องดังกล่าวออกมา ทว่าเขากลับไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ที่สามารถยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยหน้า
เมดเวเดฟกล่าวว่าเขาจะยุติความเคลือบแคลงใจเรื่องนี้ในอีกไม่ช้า ทว่าเขาไม่ได้เปิดเผยถึงวันเวลาดังกล่าว
นักวิเคราะห์บางรายเริ่มจับสังเกตได้ถึงความมั่นใจในตัวเองที่เพิ่มขึ้นของเมดเวเดฟ โดยครั้งหนึ่งเขาเคยปฏิเสธว่าไม่ใช่หุ่นเชิดของวลาดิมีร์ ปูติน วีรบุรุษในสายตาชาวรัสเซีย
นอกจากนี้ เขายังกล้าวิพากษ์วิจารณ์ปูตินออกสื่อสาธารณะ กรณีคำแถลงเรื่องลิเบีย ครั้งนั้นปูตินถากถางกองทัพพันธมิตรชาติตะวันตกว่า ระดมกำลังเหมือนไปรบสงครามครูเสด ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาแสดงความกังวลว่า การรวมอำนาจไว้ที่ศูนย์กลางมากเกินไปอาจเป็นภัยต่อรัสเซีย
เมดเวเดฟเคยพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า นักปกครองที่อยู่ในอำนาจนานเกินไปเป็นเรื่องที่ผิด เขาแสดงความเห็นต่อเรื่องดังกล่าว ขณะพาดพิงถึงผู้ว่าการแคว้นที่ทรงอิทธิพลต่างๆ ของรัสเซีย ซึ่งเมดเวเดฟได้สั่งการปรับเปลี่ยนตำแหน่งครั้งใหญ่ เมื่อปี 2010
“ไม่มีใครสามารถครองอำนาจได้ตลอดไป ถ้าใครก็ตามคิดเช่นนั้น เขาจะพบจุดจบที่ไม่สวยงามนัก” ประธานาธิบดีดมิตรี เมดเวเดฟ กล่าวไว้เช่นนี้
ผู้นำหมีขาวคนปัจจุบันยืนยันว่า หากเขาเลือกลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 เขาจะต้องไว้ใจพลังหนุนหลังทางการเมืองที่เคยสนับสนุนเขาในอดีต ความเห็นดังกล่าวชี้ว่า อาจมีความเป็นไปได้ที่เขาจะขอเสียงสนับสนุนจากพรรคอื่น นอกเหนือจากเสียงในพรรคยูไนเต็ดรัสเซีย แกนนำรัฐบาล
เมื่อปี 2008 พรรคการเมืองหลายพรรคภายใต้การนำของพรรคยูไนเต็ดรัสเซียเทใจสนับสนุนการเสนอตัวลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของเมดเวเดฟ หลังจากปูตินต้องลงจากอำนาจ เนื่องจากดำรงตำแหน่งครบ 2 วาระ
อย่างไรก็ตามการสำรวจความเห็นต่างๆ พบว่า ประชาชนจำนวนมากยังคงสนับสนุนพรรครัฐบาล และวลาดิมีร์ ปูติน ผู้แสดงออกอย่างชัดเจนว่ายังไม่ต้องการวางมือทางการเมืองในอนาคตอันใกล้นี้