เผยบุตรสาววัย 12 ปีของ “บิน ลาดิน” เห็นวินาทีที่พ่อถูกยิงตาย

เอเอฟพี - บุตรสาววัย 12 ปีของอุซามะห์ บิน ลาดิน ซึ่งปัจจุบันได้รับการคุ้มครองจากทางการปากีสถานพร้อมกับภรรยาสาวชาวเยเมนของแกนนำกลุ่มอัลกออิดะห์ผู้นี้ เห็นภาพเหตุการณ์ขณะบิดาของเธอถูกยิงเสียชีวิต เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองปากีสถานเปิดเผย วันนี้ (4)

เจ้าหน้าที่รายหนึ่งจากกรมประมวลข่าวกรองกลางปากีสถาน (ไอเอสไอ) ระบุว่า มีผู้หญิงและเด็กๆ รวมกันถึง 12 คนรอดชีวิตจากปฏิบัติการล่าหัว อุซามะห์ บิน ลาดิน ของทางการสหรัฐฯ ขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในการคุ้มครองของทางการปากีสถาน

นอกจากนี้ เด็กหญิงอายุ 12 ปีคนหนึ่งเป็นคนยืนยันกับปากีสถาน ว่า “อุซามะห์ บิน ลาดิน ถูกยิงเสียชีวิต และศพของเขาถูกหน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐฯ ยึดไป” เจ้าหน้าที่ปากีสถานผู้นี้กล่าว

ปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้ทิ้งศพไว้ 4 ศพ หนึ่งในนั้นคือบุตรชายของบิน ลาดิน เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองปากีสถานให้ข้อมูล โดยไม่ประสงค์ออกนาม

เขายืนยันว่า ทางการปากีสถานกำลังให้การคุ้มครองผู้หญิง 3 คน และเด็กอีก 9 คน ซึ่งรวมทั้งหญิงสาวชาวเยเมนผู้ถูกยิงที่ขา และบุตรสาวของบิน ลาดิน

กรมประมวลข่าวกรองกลางปากีสถานเผยว่า เจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำทุกคนในกลุ่มนี้

“มีคำถามมากมายที่เราต้องการรู้จากพวกเธอ” เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองอีกรายหนึ่งกล่าว

ทั้งนี้ รัฐบาลปากีสถานแถลงเมื่อวันอังคาร (3) ว่า สมาชิกครอบครัวของบิน ลาดิน “กำลังได้รับการดูแล” และจะได้รับการส่งตัวกลับประเทศบ้านเกิดเมืองนอน

เจ้าหน้าที่ไอเอสไอระบุว่า ปากีสถานได้ส่งมอบข้อมูลการข่าวให้กับสายลับสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นปี 2009 อันนำมาสู่ที่ตั้งของแหล่งกบดานของ บิน ลาดิน ที่ซึ่งเขาถูกสังหารเมื่อวันอาทิตย์ (1) ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ มีแรงกดดันมากมายถาโถมใส่กรุงอิสลามาบัด กับสิ่งที่ต้องอธิบายว่า แกนนำหมายเลขหนึ่งแห่งอัลกออิดะห์สามารถใช้ชีวิตโดยไม่มีใครผิดสังเกตมานานหลายเดือนได้อย่างไร ในเมื่อแหล่งกบดานของเขาตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์ฝึกทหารของปากีสถาน ก่อนที่เจ้าหน้าที่หน่วยซีลส์ของสหรัฐฯ จะบุกเขาปลิดชีพเขาได้

กรมประมวลข่าวกรองกลางปากีสถานแก้ต่างว่า เคยบุกเขาไปยังบ้านพักหลังดังกล่าวเมื่อปี 2003 เพื่อจับตัว อาบู ฟาราจ อัล-ลิบบี แกนนำหมายเลขสามของอัลกออิดะห์ ทว่าปฏิบัติการครั้งนั้นล้มเหลว ตั้งแต่นั้นมาบ้านพักดังกล่าวก็ไม่ได้อยู่ในบัญชีสถานที่ต้องสงสัยอีกต่อไป