“ลูกชาย-หลานกัดดาฟี” ถูกนาโตถล่มเสียชีวิตแล้ว

เอเอฟพี - ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในกรุงตริโปลีของนาโตเมื่อกลางดึกของวันเสาร์ (30) ส่งผลให้บุตรชายคนเล็กของพันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี และหลานอีก 3 คน เสียชีวิตแล้ว โฆษกรัฐบาลลิเบียเผยวันนี้ (1)

บ้านพักของ ซาอิฟ อัล-อาหรับ วัย 29 ปี บุตรชายคนเล็กของกัดดาฟี “ถูกยิงถล่มอย่างเต็มพิกัดเมื่อคืนนี้” มุสซา อิบรอฮีม โฆษกรัฐบาลลิเบียแถลง หลังเกิดการโจมตีทางอากาศเมื่อช่วงกลางดึกวันเสาร์ (30)

กัดดาฟี และภรรยา ซึ่งอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวไม่ได้รับอันตราย ขณะที่เพื่อนฝูงและญาติมิตรบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งอิบรอฮีมระบุว่า การกระทำเช่นนี้เป็น “ปฏิบัติการลอบสังหารผู้นำลิเบียโดยตรง”

“การโจมตีทางอากาศเมื่อคืนนี้ ทำให้ ซาอิฟ อัล-อาหรับ มูอัมมาร์ กัดดาฟี อายุ 29 ปี และหลานๆ 3 คนของท่านผู้นำต้องสละชีพ”

“แต่ท่านผู้นำยังมีสุขภาพแข็งแรงดี ท่านไม่ได้รับอันตราย ภริยาของท่านก็ปลอดภัยเช่นกัน แต่คนอื่นๆ บาดเจ็บหลายคน”

หลังการแถลงข่าวของอิบรอฮีม ก็มีการยิงสลุตกึกก้องทั่วทั้งกรุงตริโปลี เพื่อไว้อาลัยต่อการจากไปของบุคคลทั้งสี่

ด้านฝ่ายกบฏในเมืองเบงกาซีก็ยิงจรวดคาลาชนิคอฟ, ระเบิดทีเอ็นที และปืนต่อสู้อากาศยาน อย่างต่อเนื่องนานกว่าครึ่งชั่วโมง เพื่อฉลองความย่อยยับครั้งล่าสุดของกัดดาฟี

“พวกเขามีความสุขมากที่กัดดาฟีเสียลูกชายไป จึงยิงสลุตเพื่อเฉลิมฉลอง” พันเอกอาเหม็ด โอมาร์ บานี โฆษกทหารของสภาถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติ (ทีเอ็นซี) ณ เมืองเบงกาซี กล่าว

ก่อนหน้านี้ อิบรอฮีมได้พาผู้สื่อข่าวไปยังซากอาคารที่ถูกถล่มจนพังพินาศในกรุงตริโปลี แต่ไม่ได้ระบุตรงๆ ว่าเป็นจุดที่บุตรชายกัดดาฟีเสียชีวิตหรือไม่ ซึ่งหากพิจารณาสภาพความเสียหายแล้วก็ไม่น่าจะมีผู้รอดชีวิต ดังนั้นจึงอาจเป็นไปได้ว่ากัดดาฟีหลบหนีออกไปก่อนที่จะเกิดการโจมตี

ล่าสุด นาโตออกมายืนยันว่ามีการโจมตีทางอากาศเกิดขึ้นในย่านบับ อัล-อาซีซียาห์ ใจกลางกรุงตริโปลีจริง แต่ไม่สามารถยืนยันการเสียชีวิตของบุตรชายคนเล็กและหลานของ กัดดาฟี ได้

“เป้าหมายหลักของนาโตคือฐานที่มั่นของทหาร ซึ่งเกิดจากการที่กองทัพกัดดาฟีทำร้ายพลเรือน เราไม่ได้มุ่งโจมตีเป็นรายบุคคล” พลโท ชาร์ลส์ บูชาร์ด ผู้บัญชาการปฏิบัติการร่วมปกป้อง (Operation Unified Protector) ของนาโตระบุ

กัดดาฟีออกแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติเมื่อเช้าวันเสาร์ (30) ว่า นาโต “ควรเลิกหวังให้ผมสละอำนาจได้แล้ว”

“ผมไม่มีภารกิจอะไรที่จะต้องละทิ้ง ดังนั้นผมจะไม่ออกจากประเทศ และจะขอสู้จนตัวตาย” กัดดาฟีกล่าว พร้อมยื่นข้อเสนอว่า “เราพร้อมที่จะเจรจากับฝรั่งเศสและสหรัฐฯ แต่ต้องไม่มีเงื่อนไข”

“เราจะไม่ยอมแพ้ แต่ผมขอให้พวกคุณมาเจรจากับเรา ถ้าพวกคุณอยากได้น้ำมัน เราจะเซ็นสัญญากับบริษัทของพวกคุณ มันไม่คุ้มหรอกที่จะทำสงครามเพื่อสิ่งเหล่านี้”

“พวกเราชาวลิเบียแก้ปัญหากันเองได้โดยไม่ต้องให้ใครมาโจมตี ดังนั้นจงนำทหารและเครื่องบินรบของพวกคุณออกไปเสีย”

อย่างไรก็ตาม สภาถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติซึ่งตั้งตัวเป็นรัฐบาลคู่ขนานกับรัฐบาลกัดดาฟี ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าวโดยสิ้นเชิง ส่วนเจ้าหน้าที่นาโตที่กรุงบรัสเซลส์ก็ไม่รับข้อเสนอของกัดดาฟีเช่นกัน

“เราอยากเห็นการกระทำมากกว่าคำพูด” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวระบุ

                         สภาพบ้านพักของกัดดาฟีหลังถูกนาโตถล่ม