เอเอฟพี - หลายประเทศทำพิธีระลึกถึงเหตุการณ์เชอร์โนบิล ที่ยูเครน เนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปีหายนภัยนิวเคลียร์ที่ร้ายแรงที่สุดในโลก ซึ่งความน่ากลัวยังคงตามหลอกหลอนจากอุบัติเหตุนิวเคลียร์ ที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ หลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของญี่ปุ่น
ประธานาธิบดี ดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซียจะเดินทางเยือนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ในวันนี้ (26) เพื่อร่วมพิธีไว้อาลัย เช่นเดียวกับประธานาธิบดีวิกเตอร์ ยานูโกวิชของยูเครน ซึ่งพิธีเริ่มขึ้นโดยพระหัวหน้าคณะคีริลในเขตเคียฟตีระฆังในเวลา 01.23 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 05.23 น.ตามเวลาของไทย อันเป็นเวลาที่เกิดการระเบิด
ด้าน ประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก แห่งเบลารุส ซึ่งอยู่ห่างจากเชอร์โนบิลไปทางตอนเหนือไม่ไกลนัก ไม่ได้เข้าร่วมพิธีระลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย
ในเช้าวันที่ 26 เมษายน ปี 1986 คนงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ซึ่งสมัยนั้นยังเป็นสหภาพโซเวียต กำลังทำการทดสอบเตาปฏิกรณ์ เมื่อเกิดการระเบิดหลายครั้งอย่างต่อเนื่อง มีคนงานเสียชีวิต 2 รายจากการระเบิด ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัย และพนักงานอีก 28 รายเสียชีวิตจากการรับรังสีในเดือนถัดมา
เศษซากกัมมันตรังสีปกคลุมไปทั่วบริเวณเตาปฏิกรณ์ สร้างบรรยากาศโดยรอบให้ดูเหมือนวันโลกาวินาศ ขณะที่ฝุ่นวัตถุนิวเคลียร์ฟุ้งกระจายไปไกลถึงเบลารุส รัสเซีย และอีกหลายประเทศในยุโรป ทำให้ประชาชนนับแสนคนต้องอพยพหนีภัยนิวเคลียร์ และยังเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ
โอกาสครบรอบเหตุการณ์เชอร์โนบิลครั้งนี้นั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญวิกฤตนิวเคลียร์ อันเนื่องมาจากโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว และสึนามิครั้งใหญ่ ซึ่งถูกยกระดับให้มีความร้ายแรงสูงสุด หรือเทียบเท่ากับอุบัติเหตุนิวเคลียร์เชอร์โนบิล
ทั้งนี้ ยังคงมีการถกเถียงกันถึงตัวเลขที่แท้จริงของจำนวนผู้เสียชีวิตจากหายนะภัยครั้งนั้น แม้แต่ในหน่วยงานของยูเอ็นเอง ซึ่งการประเมินเหล่านั้นมียอดผู้เสียชีวิตตั้งแต่ไม่กี่สิบคนไปจนถึงหลายแสนคนทีเดียว
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคน ชี้ว่า ผลกระทบต่อสุขภาพที่ร้ายแรงที่สุดจากเหตุเชอร์โนบิลนั้นเป็นทางด้านจิตใจมากกว่าร่างกาย ซึ่งการที่ต้องย้ายที่อยู่ และความรู้สึกตกเป็นเหยื่อหายนะภัยนิวเคลียร์นั้นเป็นความทรงจำที่สร้างความบอบช้ำทางจิตใจ
