เอเอฟพี - การก้าวผงาดขึ้นมาของครอบครัวเคต มิดเดลตัน ว่าที่เจ้าสาวของเจ้าชายวิลเลียม ได้รับการยกย่องเปรียบประหนึ่งตัวอย่างอันสง่างามของการเลื่อนสถานภาพทางสังคม ทว่าสิ่งเหล่านี้มิอาจหยุดเสียงนินทาว่าร้ายจากบรรดาสื่อและเหล่าผู้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของราชวงศ์ลงได้
ด้วยสายเลือดที่สืบทอดมาจากคนงานเหมืองถ่านหินและอาชีพใช้แรงงานทางตอนกลางของอังกฤษ เคต มิดเดลตัน สามารถอ้างความเป็น “เจ้าหญิงแห่งปวงชน” ได้อย่างแท้จริง
คุณตาทวดของเคต มิดเดลตัน หันหลังให้กับงานเหมืองถ่านหิน ด้วยการย้ายถิ่นฐานลงมาสู่กรุงลอนดอน เป็นการผลักดันครอบครัวผ่านการเดินทางอันน่าชื่นชมในการฟันผ่าชนชั้นทางสังคมในอังกฤษ
ไมเคิล และ แคโรล มิดเดลตัน บิดาและมารดาของเคต พบรักกันระหว่างทำงานอยู่ที่สายการบินบริติช แอร์เวย์ส เมื่อ 30 ปีที่แล้ว โดยไมเคิล บุตรชายของนักบิน ทำหน้าที่พนักงานอำนวยการบิน ส่วนแคโรล เป็นพนักงานบริการบนเครื่องบิน
หลังจากแต่งงานมาหลายปี ทั้งสองตัดสินใจทำธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับจัดงานเลี้ยงรื่นเริง กิจการที่ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเศรษฐี และพลิกชะตาชีวิตของครอบครัวมิดเดลตันอีกรอบหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในสังคมอังกฤษที่มีค่านิยมเรื่องชนชั้น ก่อนหน้านี้ เคยมีคำครหาถึงความสัมพันธ์ระหว่างเคตกับเจ้าชายวิลเลียม โดยบรรดาพระสหายจากชนชั้นสูงของพระองค์จะกระซิบกระซาบกันว่า “doors to manual” (คำสั่งที่นักบินบอกลูกเรือ หลังเครื่องบินลงจอด) เมื่อเคตเข้ามาในห้องเรียน เป็นการถากถางถึงอาชีพเก่าของแคโรล มิดเดลตัน แม่ของเธอ
ตลอดช่วงระยะเวลา 8 ปีแห่งความชื่นมื่นที่เคต บุตรสาวคนโตของทั้งสอง คบหาดูใจกับเจ้าชายวิลเลียม ครอบครัวมิดเดลตันเลือกที่จะเก็บตัวเงียบอย่างน่าผึ่งผาย
แต่การสงบปากสงบคำของครอบครัวมิดเดลตันไม่สามารถยับยั้งเสียงเย้ยหยันจากบรรดาสื่ออังกฤษได้ บางครั้งบางคราถึงกับกระแหนะกระแหนว่า พวกเขาเป็นเศรษฐีใหม่ ที่กระตือรือร้นในการผลักดันให้ลูกๆ ของตนให้มีหน้ามีตาในสังคมเมืองผู้ดี
คำนินทาว่าร้ายมากมาย อาทิ เรื่องที่แคโรลคะยั้นคะยอให้บุตรสาวของเธอเปลี่ยนใจ เลือกเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเซนต์ แอนดรูวส์ แคว้นสกอตแลนด์ เมื่อทราบข่าวว่า เจ้าชายวิลเลียมทรงเลือกศึกษาเล่าเรียนที่นั่น โดยเพื่อนๆ ของครอบครัวมิดเดลตันช่วยกันปฏิเสธข้อกล่าวอย่างหนักแน่น
ทว่า อคติและกระแสเรื่องข่าวโคมลอยใส่ร้ายไมเคิล และ คาโรล ได้ก่อความเห็นอกเห็นใจขึ้นกับนักวิจารณ์บางส่วน ซึ่งช่วยโต้แย้งแทนว่า ครอบครัวมิดเดลตันอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้จากการถูกวิพากาษ์วิจารณ์
คู่สามีภรรยามิดเดลตันสมรสกันเมื่อปี 1980 ปัจจุบันมีบุตรด้วยกัน 3 คน ได้แก่ บุตรสาวคนโต แคตเธอรีนหรือเคต เกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 1982 บุตรสาวคนรอง ฟีลิปปาหรือปิปปา เกิดเมื่อปี 1983 และบุตชายคนเล็ก เจมส์ เกิดเมื่อปี 1987
เมื่อเดือนพฤษภาคม 1984 ครอบครัวมิดเดลตันย้ายไปอยู่จอร์แดนเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งทำให้ไมเคิลมีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่งสู่งานบริหารในสายการบินบริติช แอร์เวย์ส
หลังจากย้ายกลับมายังอังกฤษ ครอบครัวมิดเดลตันตั้งหลักปักฐานอยู่ในบ้านหลังไม่ใหญ่ไม่โตในหมู่บ้านแบรดฟิลด์ แคว้นเบิร์กเชียร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน
ต่อมาในปี 1987 ทั้งสองเริ่มดำเนินธุรกิจ "ปาร์ตี พีซเซส" ร้านจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับงานเลี้ยงรื่นเริง โดยสินค้ารวมไปถึงจานกระดาษและลูกโป่ง กิจการดังกล่าวทำเงินให้กับทั้งคู่ได้เป็นกอบเป็นกำ
ปิปปาวัย 27 ปี และเจมส์วัย 24 ปี ยังคงช่วยงานกิจการของครอบครัว ขณะที่เคต ซึ่งปัจจุบันอายุ 29 ปีก็เคยช่วยธุรกิจของครอบครัว และเพิ่งวางมือเมื่อไม่นานมานี้
การประสบความสำเร็จทางธุรกิจทำให้ครอบครัวของเคตมีเงินทองมากพอที่จะย้ายเข้าอยู่ในบ้านหลังใหญ่ในหมู่บ้านบัคเคิลบิวรี ในแคว้นเบิร์กเชียร์เช่นกัน นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังสามารถส่งลูกๆ ทั้งสามให้เข้าเรียนยังวิทยาลัยมาร์ลโบโร คอลเลจ หนึ่งในสถานศึกษาที่มีค่าเล่าเรียนแพงที่สุดในอังกฤษ โดยมีค่าเทอมต่อปีสูงถึง 30,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.5 ล้านบาท)
ชีวิตแต่งงานตลอด 30 ปีของไมเคิลและแคโรล มีแต่ความสุขสันต์ ทั้งสองมีเพื่อนมากมายในหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ และเพื่อนๆ จำนวนมากเป็นเจ้าของร้านค้าปลีกในชุมชน ทั้งคนขายเนื้อ และคนขายของชำ ซึ่งล้วนได้รับเชิญเข้าร่วมพิธีอภิเษกสมรสในวันที่ 29 เมษายนนี้ด้วยกันทั้งสิ้น
คำแถลงต่อสาธารณะผ่านสื่อเพียงครั้งเดียวของครอบครัวมิดเดลตันในระยะเวลา 8 ปี มีขึ้น หลังการประกาศการหมั้นหมายของเคต เมื่อเดือนพฤศจิกายน
วันนั้น ไมเคิล มิดเดลตัน แต่งกายด้วยชุดสุภาพชนตามแบบฉบับชนบทชาวอังกฤษ เขายืนอยู่ในอาณาเขตบ้านของตน และประกาศว่า เขาและภรรยา “ปลาบปลื้มอย่างยิ่ง”
“เรารู้จักเจ้าชายวิลเลียมเป็นอย่างดี เราต่างคิดว่าพระองค์ทรงเลอเลิศ เราทั้งสองปลาบปลื้มพระองค์เป็นอย่างยิ่ง ทั้งสองเป็นคู่ที่น่ารักมาก” ไมเคิล มิดเดิลตัน กล่าวไว้เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2010