เอเอฟพี - ทิม เฮเธอริงตัน ช่างภาพข่าวสงครามชาวอังกฤษ และผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ที่มีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ และคริส ฮอนดรอส ช่างภาพชาวอเมริกันที่เคยได้รับรางวัล ถูกสังหารในเมืองมิสราตาของลิเบีย ซึ่งถูกปิดล้อมโดยกองกำลังผู้จงรักภักดีต่อมูอัมมาร์ กัดดาฟี
นิตยสารแวนิตีแฟร์ ซึ่งเฮเธอริงตันเป็นช่างภาพให้ ยืนยันว่า ช่างภาพวัย 41 ปี ที่เคยได้รับรางวัลเวิล์ด เพรส โฟโต้เมื่อปี 2007 จากการรายงานภาพทหารสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานรายนี้ เสียชีวิตแล้วในวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา
ขณะที่ทางเก็ตตี อิมเมจก็ยืนยันว่า ฮอนดรอส วัย 41 ปี เสียชีวิตเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว หลังได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจากการโจมตีครั้งเดียวกัน พร้อมกับแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของเขาขณะปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวในลิเบีย
นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนร่วมงานอีก 2 คน คือ กาย มาร์ติน ช่างภาพอิสระของพานอส และไมเคิล บราวน์ ช่างภาพของคอร์บิส ได้รับบาดเจ็บในกาโจมตีด้วยปืนครกบนถนนตริโปลี อันเป็นทางหลวงสายหลักที่ตกเป็นเป้าการโจมตี ในเมืองมิสราตา ซึ่งถูกปิดล้อมโดยกองกำลังของผู้นำลิเบียมาเกือบ 2 เดือนแล้วครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ เฮเธอริงตัน และฮอนดรอสเป็นนักข่าวรายที่ 2 และ 3 ที่เสียชีวิตในลิเบีย นับตั้งแต่เกิดเหตุความไม่สงบภายในประเทศที่ยืดเยื้อมาร่วม 2 เดือน
สำหรับเฮเธอริงตันนั้น เขาเกิดในเมืองลิเวอร์พูล เคยผลิต และเป็นผู้ช่วยผู้กำกับสารคดีเรื่อง "Restrepo" ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์
ส่วนฮอนดรอส ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงพูลิตเซอร์ไพรส์ เคยทำงานในสนามรบมาแล้วหลายที่ทั่วโลกตลอดสิบปีที่ผ่านมา ทั้งโคโซโว แองโกลา เซียร์ราลีโอน อัฟกานิสถาน แคชเมียร์ เวสต์แบงก์ อิรัก ไลบีเรีย และอื่นๆ อีกมากมาย โดยในปี 2006 เขาชนะเหรียญรางวัลโรเบิร์ต คาปา โกลด์ จากผลงานภาพถ่ายในอิรัก
ด้านเจย์ คาร์นีย์ หัวหน้าโฆษกของประธานาธิบดีบารัค โอบามากล่าวว่า ผู้นำสหรัฐฯ รู้สึกเสียใจกับการเสียชีวิตของเฮเธอริงตัน ในถ้อยแถลงซึ่งออกมาก่อนข่าวการเสียชีวิตของฮอนดรอส โดยว่านักข่าวทั่วโลกมีความเสี่ยงต่อชีวิตในแต่ละวันเพื่อที่จะรายงานเหตุการณ์ให้แก่ผู้อ่าน ผู้ฟัง
ในเวลาต่อมา ทำเนียบขาวก็แถลง หลังมีการยืนยันการเสียชีวิตของฮอนดรอสแล้ว ว่า ความตายอันน่าสะเทือนใจของเขายิ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นในการปกป้องนักข่าว ที่เข้าไปในทำงานในพื้นที่ความขัดแย้งทั่วโลก