เอเอฟพี - ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนของยูเอ็นแถลงวันนี้ (12) ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 536 คน ในพื้นที่ทางตะวันตกของโกตดิวัวร์ (ไอเวอรีโคสต์) ตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือนมีนาคมเป็นต้นมา พร้อมทั้งย้ำว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นมากกว่านี้
“ตอนนี้เราพบว่า มี 536 คนถูกสังหารในฝั่งตะวันตกของโกตดิวัวร์” ราวีนา ชามดาซอนี โฆษกหญิงของสำนักข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ กล่าว
โฆษกหญิงผู้นี้ ระบุว่า การฆ่าน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคม มีการพบศพจำนวนมากในหลายๆ เมืองทางตะวันตกของโกตดิวัวร์ และยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดอาจเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้ เธอยังได้เรียกร้องให้หาตัวผู้รับผิดชอบ โดยระบุว่า เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสมานฉันท์ของชาติ
เมื่อวันศุกร์ (8) ที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติ รายงานว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนด้านสิทธิมนุษยชนได้พบศพมากกว่า 100 ศพ ภายใน 24 ชั่วโมง ในพื้นที่ทางตะวันตกของโกตดิวัวร์ นับเป็นการสังหารหมู่ครั้งใหญ่หลังสิ้นสุดยุคการสังหารโดยมีเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์เป็นแรงจูงใจ
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ยูเอ็นพบผู้เสียชีวิต 229 ศพ ในเมืองดูโกอู และสำนักข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งยูเอ็นระบุว่า การสู้รบในโกตดิวัวร์กำลังทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น
เมื่อวันเสาร์ (9) องค์การฮิวแมนไรท์วอตช์ กล่าวหากองกำลังผู้สวามิภักดิ์ต่อ ประธานาธิบดี อลาสซาเน ออตตารา ว่า สังหารและข่มขืนชาวบ้านหลายร้อยคน รวมทั้งเผาหมู่บ้านหลายแห่ง ระหว่างรุกคืบเข้าเมืองอาบีจาน ในช่วงปลายเดือนมีนาคม นอกจากนี้ ฮิวแมนไรท์วอตช์ยังได้เปิดเผยหลักฐานชิ้นใหม่ถึงการสังหารผู้สนับสนุน โลรองต์ จีบักโบ ในพื้นที่ตะวันตกของโกตดิวัวร์ ซึ่งถูกกองกำลังผู้ติดตาม ประธานาธิบดีออตตารายึดครองระหว่างทำสงคราม
ด้าน สภากาชาดสากล ได้รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตมากถึง 800 คน ระหว่างการโจมตีเมืองดูโกอูของทัพออตตารา ส่วนหน่วยงานบรรเทาทุกข์ต่างๆ เตือนว่า การจับกุมตัวโลรองต์ จีบักโบวานนี้ (11) ไม่ได้หมายความว่า จะสามารถยุติวิกฤตมนุษยธรรมในโกตดิวัวร์ได้