เอเอฟพี - ชาวอัฟกานิสถานหลายร้อยคนชุมนุมการประท้วงครั้งใหม่กลางกรุงคาบูล วันนี้ (7) เพื่อคัดค้านการเผาพระคัมภีร์อัลกุรอานของศาสนาจารย์ชาวสหรัฐฯ โดยการชุมนุมดังกล่าวยื้ดเยื้อเข้าสู่วันที่ 7 แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผย
“มีการประท้วงโดยสงบของมวลชนประมาณ 300 คน หน้ามัสยิดอีด กาห์ น่ายินดีที่ครั้งนี้ไม่มีความรุนแรงและใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น” ฮัชมัต สตานิกไซ ตำรวจกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน กล่าวกับเอเอฟพี
นอกจากนี้ พยานในละแวกดังกล่าว เล่าว่า เห็นผู้ประท้วงถือป้ายรณรงค์ต่อต้านสหรัฐฯ อาทิ ข้อความระบุว่า “ฆาตกร ฆาตกร อเมริกา” และ “อัลกุรอานคือกฎหมายของเรา” การชุมนุมต่อต้านการเผาคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์แห่งศาสนาอิสลามดังกล่าวมีขึ้นหลังชาวมุสลิมกลุ่มนี้เสร็จสิ้นการละหมาดรอบเช้า
เจ้าหน้าที่ของยูเอ็นถูกสังหารระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมบุกสำนักงานของยูเอ็นในเมืองมาซาร์-อี-ชารีฟ ทางตอนเหนือของอัฟกานิสถาน นับตั้งแต่นั้นมา ยังไม่มีการประท้วงขั้นรุนแรงในกรุงคาบูล ซึ่งมีชาวสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ต่างชาติพำนักอยู่จำนวนมาก
ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตระหว่างการประท้วงตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างน้อย 24 คน ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ขององค์การสหประชาชาติ 7 คน ต้นตอของความวุ่นวายดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา โดย ศาสนาจารย์ เวย์น แซปป์ ในการดูแลของเทอร์รี โจนส์ ได้เผาพระคัมภีร์อัลกุรอานฉบับหนึ่ง
วานนี้ (6) ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ และ ฮามิด คาร์ไซ ผู้นำอัฟกานิสถานได้หารือกันผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ทั้งสองต่างแสดงความเสียใจต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น ด้าน ทำเนียบขาว แถลงว่า “ผู้นำทั้งสองท่านต่างตำหนิการลบหลู่ดูหมิ่นพระคัมภีร์อัลกุรอาน ประณามการรุกรานสำนักงานยูเอ็นในเมืองมาซาร์-อี-ชารีฟ เมื่อวันที่ 1 เมษายน พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อโศกนาฏกรรมการสูญเสียชีวิต” ส่วน ทำเนียบประธานาธิบดีอัฟกัน แถลงว่า ฮามิด คาร์ไซ ได้ถกปัญหาการเผาคัมภีร์อัลกุรอานของศาสนาจารย์ชาวสหรัฐฯ และเหตุการณ์ที่เกิดตามมาในอัฟกานิสถาน
ทางการสหรัฐฯ นิยามการเผาอัลกุรอาน ว่า “ไม่เป็นอเมริกันชน” ด้าน บารัค โอบามา ตราหน้าการลบหลู่ศาสนาอิสลามครั้งนี้ ว่า “ความใจแคบและดื้อรั้นอย่างยิ่ง”