เอเอฟพี - กองกำลังด้านความมั่นคงเยเมนยิงผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลเสียชีวิต 17 คนและบาดเจ็บอีกจำนวนมากเมื่อวันจันทร์(4) ในเหตุปะทะนองเลือดวันที่สองที่เมืองทาเอซ ทางภาคใต้ของเมืองหลวง
"ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 17 คนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบ" ซาเดก อัล-ชูจา หัวหน้าโรงพยาบาลสนาม ณ จตุรัสแห่งหนึ่งใจกลางเมืองทาเอซ กล่าวพร้อมแก้ไขยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด
เหตุนองเลือดมีขึ้นขณะที่ผู้ชุมนุมกำลังเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังสำนักงานผู้ว่าราชการในเมืองดังกล่าวที่อยู่ห่างจากกรุงซานา ราว 200 กิโลเมตร เพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดีอาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ ลาออกจากตำแหน่ง
ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่าผู้ชุมนุมบุกเข้าไปยังลานสำนักงานผู้ว่าราชการ แต่ระหว่างนั้นมีกลุ่มมือปืนตำรวจนอกเครื่องแบบซุ่มยิงลงมาจากหลังคาในความพยายามผลักดันให้พวกเขาถอยกลับ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บข้างต้น
ก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งวันในเมืองแห่งนี้ก็มีผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตในปฏิบัติการปราบปรามผู้ประท้วงภายในเยเมน พุ่งขึ้นมากกว่า 100 ศพแล้ว นับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม
ที่เมืองฮุไดดะห์ ทางตะวันตกของประเทศ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าประชาชนหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนของตำรวจและก้อนหินในเหตุปะทะกันเมื่อวันจันทร์(4) ขณะที่อีกหลายร้อยคนต้องรักษาอาการต่างๆอันสืบเนื่องจากสูดดมแก๊สน้ำตาเข้าไป
เหตุการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งวันหลังเหตุปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงหลายพันคนที่เมืองแห่งนี้ในช่วงค่ำวันอาทิตย์(3) ระหว่างที่ผู้ชุมนุมกำลังเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังสำนักงานผู้ว่าราชการ จนมีได้รับบบาดเจ็บจำนวนมากด้วยอาการต่างๆนาๆ ทั้งถูกยิงด้วยกระสุนจริง 13 คน ถูกทุบตีด้วยตะบองและขว้างปาด้วยก้อนหิน 30 คน ขณะที่อีก 400 คนได้รับพิษจากแก๊สน้ำตาของตำรวจ
อีกด้านหนึ่งในรัฐสภา พรรคฝ่ายค้านเมื่อวันเสาร์(2) เรียกร้อง ซาเลห์ มอบอำนาจแก่รองประธานาธิบดี อุบดราบูห์ มันเซอร์ ฮาดี ในข้อเสนอใหม่สำหรับการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ ทว่าผู้นำรายนี้ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯในการต่อสู้กับอัลกออิดะห์บอกว่าฝ่ายต่อต้านต้องยุติการชุมนุมและคืนเส้นทางการจราจรตามท้องถนนสายต่างๆเสียก่อน พร้อมกับเสนอการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติผ่านแนวทางของรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตามกลุ่มเยาวชนที่จัดการชุมนุมอยู่ในขณะนี้ ยืนกรานไม่ยอมรับข้อเสนอใดๆนอกจากการลาออกของ ซาเลห์ เช่นเดียวกับบุคคลสำคัญภายในรัฐบาลของเขา
แรงกดดันถาโถมเข้าใส่ ซาเลห์ ในวันที่ 18 มีนาคม เมื่อฝ่ายภักดีต่อรัฐบาลซุ่มยิงผู้ชุมนุมเสียชีวิต 52 รายในกรุงซานา จุดชนวนเสียงประณามอย่างรุนแรงจากนานาชาติและการแปรพักต์ในหมู่สมาชิกภายในพรรคของเขา อย่างไรก็ตามดูเหมือนประธานาธิบดีรายนี้ไม่ยี่หระต่อแรงกดดันเหล่านั้น