เอเอฟพี - วันนี้ (14) ชาวญี่ปุ่นหลายล้านคนต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากทั้งอาหาร, น้ำดื่ม และกระแสไฟฟ้า ขณะที่อีกหลายแสนคนยังไร้ที่อยู่ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงและคลื่นยักษ์สึนามิที่ผลาญทำลายชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ จนมีสภาพแทบไม่ต่างจากประเทศโลกที่ 3
ทหารญี่ปุ่น 100,000 นาย พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมค้นหาจากทั่วโลก ต่างรุดไปยังพื้นที่ประสบภัยพิบัติเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่หวาดผวากับอาฟเตอร์ช็อก และข่าวลือเรื่องสึนามิลูกใหม่ ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นลงเรื่อยๆ
ห้างร้านต่างๆ เหลือเพียงชั้นวางโล่งๆ ที่ปราศจากสินค้า เช่นเดียวกับสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศที่ไม่มีน้ำมันจำหน่าย เนื่องจากประชาชนแห่กักตุนเครื่องอุปโภคบริโภค ขณะที่องค์การสหประชาชาติ เปิดเผยว่า บ้านเรือนในญี่ปุ่น 2.6 ล้านหลัง ไม่มีไฟฟ้าใช้ และประชาชน 3.2 ล้านคน กำลังขาดแคลนเชื้อเพลิง
เมืองอิชิโนมากิ ซึ่งมีประชากร 165,000 คน ยังคงปราศจากไฟฟ้าและไร้ช่องทางสื่อสารกับโลกภายนอก ขณะที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถส่งความช่วยเหลือได้เต็มที่ เนื่องจากสึนามิพัดถล่มพื้นที่กว่าครึ่งของเมือง ทำให้เส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด
“ปัญหาสำคัญประการแรก คือ เราไม่มีน้ำดื่ม” ฮิโรชิ คาเมยามะ นายกเทศมนตรีเมืองอิชิโนมากิ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นเอชเค
“เราไม่มีทั้งอาหาร และไม่ได้รับข่าวสารใดๆ เลย”
แพทริก ฟูลเลอร์ โฆษกสภากาชาดประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ที่เมืองอิชิโนมากิ เปิดเผยว่า “เราต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อช่วยคนที่อาจจะบาดเจ็บและยังติดอยู่ในซากปรักหักพัง”
“ในโรงพยาบาลกาชาดไม่มีพื้นที่ว่างอยู่เลย แพทย์และพยาบาลก็ต้องนอนรวมกับผู้บาดเจ็บ” ฟูลเลอร์ เขียนไว้ในบล็อกของสภากาชาด
“กระนั้นก็ยังมีรถพาผู้บาดเจ็บมาส่งโรงพยาบาลอย่างไม่ขาดสาย บางคนลงทุนเดินเท้ามาเอง บ้างก็มีเฮลิคอปเตอร์ หรือมีคนช่วยพามาส่ง”
สำนักงานประสานงานเพื่อมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (โอซีเอชเอ) ระบุว่า ขณะนี้มีชาวญี่ปุ่นอย่างน้อย 1.4 ล้านคนที่ไม่มีน้ำประปาใช้ และกว่า 500,000 คน ต้องอาศัยศูนย์ผู้อพยพเป็นที่พักพิง
“สิ่งของหลักๆที่จำเป็น คือ อาหาร, น้ำดื่ม, ผ้าห่ม, เชื้อเพลิง และอุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นและภาคเอกชนก็กำลังระดมความช่วยเหลือเพื่อส่งไปยังพื้นที่ประสบภัยแล้ว” โอซีเอชเอ ระบุ
รัฐบาลต้องงดจ่ายกระแสไฟฟ้าสลับกันทุกพื้นที่เพื่อประหยัดพลังงาน หลังจากอาคารเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะเกิดระเบิดขึ้น 2 ครั้ง และโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งถูกเพลิงไหม้
องค์การสหประชาชาติ เปิดเผยว่า พลังงานและแก๊สมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากอุณหภูมิกลางคืนลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ทั้งยังมีการพยากรณ์ว่า จะมีหิมะและฝนตกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
“อาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ ตลอดจนเพลิงไหม้และคำเตือนสึนามิ ทำให้การช่วยเหลือประชาชนค่อนข้างยากลำบาก เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปในหลายพื้นที่บริเวณชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือได้” โอซีเอชเอ เผย
ด้าน สภากาชาดญี่ปุ่น ระบุว่า เกิดดินถล่มขึ้นในหลายพื้นที่ ถนน, สะพาน และรางรถไฟถูกสึนามิพัดพังเสียหายหลายจุด ส่วนถนนหลวงที่มุ่งสู่เขตภัยพิบัติทางตะวันออกเฉียงเหนือจะเปิดให้รถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยผ่านเท่านั้น
เอริก อวนเนส ผู้อำนวยการองค์การ เมเดแซงส์ ซองส์ ฟรอนทิแยร์ส์ ประจำประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “ความเสียหายจัดอยู่ในขั้นรุนแรง แต่การตอบสนองจากรัฐบาลญี่ปุ่นก็ยิ่งใหญ่ไม้แพ้กัน”
ล่าสุด สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคและสื่ออื่นของญี่ปุ่นรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทีมค้นหาพบศพผู้เสียชีวิตในจังหวัดมิยางิ ซึ่งประสบภัยแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เกือบ 2,000 ศพ
ผู้สื่อข่าวอ้างรายงานจากตำรวจท้องที่ ซึ่งระบุว่า พบศพเกือบ 1,000 ศพ บนชายหาดในคาบสมุทรโอจิกา และอีกราว 1,000 ศพ ในเมืองมินามิซันริคุ บนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งถูกแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์เล่นงานอย่างสาหัส
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นบ่ายวันนี้ (14) ยังอยู่ที่ 1,647 ราย แต่ผู้บังคับการตำรวจในมิยางิชี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตเฉพาะในจังหวัดนี้น่าจะเกิน 10,000 ราย