เอเอฟพี - สิงคโปร์ และไต้หวัน สั่งตรวจสอบอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่นอย่างเข้มงวดเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการปนเปื้อนกัมมันตรังสี หลังเตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะเกิดระเบิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ (12) ที่ผ่านมา
“เพื่อเป็นการกันไว้ก่อน องค์การอาหารเกษตรและสัตวศาสตร์สิงคโปร์ (เอวีเอ) จึงจำเป็นต้องตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหารจากประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อน” แถลงการณ์จาก เอวีเอ ระบุ
“เราจะนำตัวอย่างอาหารไปตรวจหาสารกัมมันตรังสี โดยเฉพาะอาหารสด และ เอวีเอ จะติดตามสถานการณ์ความคืบหน้าในญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด”
เอวีเอ เปิดเผยว่า อาหารจากญี่ปุ่นส่วนมากถูกนำเข้าทางเรือ แต่ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นบางแห่งจะใช้วัตถุดิบที่ขนส่งทางอากาศเพื่อความสดใหม่ เช่น ปลาดิบ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของ ซูชิ และ ซาชิมิ
สิงคโปร์มีภัตตาคารที่เสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมสูง
ปีที่แล้วสิงคโปร์นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นคิดเป็นมูลค่าราว 33,300 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (7.9 แสนล้านบาท)
ล่าสุด องค์การอาหารและยาของไต้หวันก็เตรียมตรวจสอบอาหารที่นำเข้าจากญี่ปุ่นแล้วเช่นกัน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการออกข้อบังคับดังกล่าว