เอเอฟพี - บริษัทผู้บริหารงานโรงงานนิวเคลียร์ในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวของญี่ปุ่น เปิดเผยวันนี้ (13) ว่าระบบหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์อีกตัวไม่ทำงานและเสี่ยงที่จะระเบิด ไมนานหลังจากเตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 ของโรงไฟฟ้าฟุกุชิมาแห่งนี้เกิดระเบิดจนก่อความหวาดวิตกในวงกว้าง
“ทุกระบบที่ช่วยรักษาระดับน้ำหล่อเย็นในเตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 ณ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะหมายเลข 1 ไม่ทำงาน” โฆษกของบริษัทผลิตไฟฟ้าโตเกียว (TEPCO) กล่าว “ณ เวลา 05.30 น.(ตรงกับเมืองไทย 03.30 น.) ระบบได้หยุดฉีดน้ำและแรงดันภายในค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละน้อย” เขาบอก พร้อมระบุว่าทางบริษัทได้ยื่นรายงานฉุกเฉินไปยังรัฐบาลแล้ว
ความหวาดวิตกนี้มีขึ้นหลังจากเกิดการระเบิด ณ เตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 ของโรงไฟฟ้าแห่งเดียวกันนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียว ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 250 กิโลเมตร ในช่วงบ่ายวันเสาร์ (12) แม้มีความพยายามควบคุมอุณหภูมิไม่มีสูงขึ้นและไม่ให้แรงกดภายในพุ่งสูงก็ตาม
เหตุระเบิด ณ โรงงานแห่งนี้ซึ่งเกิดขึ้นหนึ่งวันตามหลังธรณีพิโรธรุนแรงได้ก่อความเสียหายแก่ระบบหล่อเย็น สร้างความกังวลต่อการหลอมละลายของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ซึ่งจะส่งผลให้มีกัมมันตรังสีรั่วไหล
อย่างไรก็ตาม ทาง TEPCO อ้างว่ามีเพียงโครงสร้างภายนอกของเตาปฏิกรณ์เท่านั้นที่พังลงมาและเตาปฏิกรณ์เหล็กภายในไม่มีรอยแตกแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะฉุกเฉินที่เตาปฏิกรณ์ปรมาณู 5 แห่งของโรงไฟฟ้า 2 แห่ง หลังจากเตาปฏิกรณ์เหล่านี้ไม่สามารถรักษาระบบหล่อเย็นให้ทำงานเป็นปกติได้ และเมื่อวันเสาร์ (12) ทางการก็ขยายขอบเขตการอพยพรอบโรงงานเป็น 20 กิโลเมตร
สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ระบุว่า ญี่ปุ่นได้รายงานมาว่าได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยรอบโรงงานนิวเคลียร์นิวเคลียร์ฟุกุชิมะหมายเลข 1 และ 2 แล้วราว 200,000 คน
อนึ่ง โรงงานนิวเคลียร์นิวเคลียร์ฟุกุชิมะทั้งสองแห่งตั้งอยู่ติดกัน โดยโรงงานหมายเลข 1 มีเตาปฏิกรณ์อยู่ 6 เตา ส่วนโรงงานหมายเลข 2 มีเตาปฏิกรณ์ทั้งหมด 4 เตาด้วยกัน