เอเอฟพี - เหตุสู้รบที่ดุเดือดในลิเบีย ในจำนวนนั้นรวมไปถึงการโจมตีทางอากาศโดนโรงกลั่นสำคัญ ส่งให้ราคาน้ำมันตลาดลอนดอนพุ่งขึ้นเมื่อวันพุธ (9) ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดในกรอบแคบๆ หลังปราศจากเครื่องบ่งชี้ทางเศรษฐกิจใดๆ ที่มีผลโดยตรงต่อนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกันนั้น ราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์กปรับตัวลดลง หลังจากรายงานประจำสัปดาห์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรอง ณ เมืองคุชชิง โอคลาโฮมา ศูนย์กลางคลังน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลกและจุดส่งมอบจุดน้ำมันตามสัญญาไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้นเกินความคาดหมาย
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันไลต์สวีตครูตของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 64 เซ็นต์ ปิดที่ 104.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 115.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวในทางบวกของราคาน้ำมันตลาดลอนดอน ถูกขับเคลื่อนโดยข่าวเหตุสู้รบที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ในลิเบีย โดยเฉพาะโรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งในราส ลานุฟ ซึ่งอยู่ในการยึดครองของฝ่ายกบฏถูกฝ่ายทหารผู้จงรักภักดีต่อประธานาธิบดีโมอัมมาร์ กัดดาฟี โจมตีทางอากาศจนได้รับความเสียหาย
ขณะเดียวกัน ชูกรี กาเนม ประธานบรรษัทพลังงานแห่งชาติลิเบีย ออกมายอมรับว่า การส่งออกน้ำมันของประเทศลดลงมากกว่า 2 ใน 3 หรือจาก 1.6 ล้านบาร์เรล หรือเพียง 500,000 บาร์เรล จากปัญหาความไม่สงบและส่งผลกระทบต่อการส่งออกที่มีจุดหมายปลายทางยังโรงกลั่นต่างๆ ในยุโรป
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้(9) แทบไม่ขยับ หลังปราศจากเครื่องบ่งชี้ทางเศรษฐกิจใดๆ มีผลโดยตรงต่อนักลงทุนและความผันผวนในตลาดน้ำมันท่ามกลางวิกฤตในลิเบีย
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 1.29 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,213.09 จุด แนสแดค ลดลง 14.05 จุด (0.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,751.72 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 1.80 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,320.02 จุด