เอเจนซี - ทางการนิวซีแลนด์ล้มเลิกความหวัง ที่จะค้นหาตัวผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว โดยจะให้ความสำคัญกับการเก็บกู้ซากเหยื่อผู้เสียชีวิตต่อไป
จอห์น แฮมิลตัน หัวหน้าหน่วยป้องกันพลเรือน เผยว่า เมื่อเวลาผ่านไปโอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มก็ลดลงไปด้วย และน่าสลดใจที่ถึงเวลาแล้วที่ปฏิบัติการกู้ภัยต้องเปลี่ยนจากการช่วยชีวิตมาเป็นเก็บกู้ซากศพผู้เสียชีวิตแทน
ขณะนี้ ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันอยู่ที่ 161 ราย โดยตำรวจประเมินไว้ว่าตัวเลขดังกล่าวอาจสูงขึ้นไปถึง 240 ราย ซึ่งจะทำให้เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดเป็นลำดับที่สองของนิวซีแลนด์ รองจากแผ่นดินไหวที่นาเปียร์เมื่อปี 1931 ซึ่งคร่าชีวิตชาวบ้านไป 256 คน
เจ้าหน้าที่สามารถดึงผู้รอดชีวิตออกจากซากอาคารได้ 70 คน หลังเกิดแผ่นดินไหวระดับ 6.3 ถล่มเมืองไครสต์เชิร์ช เมื่อเวลา 12.51 น.ในวันอังคารที่แล้ว (22) อันเป็นช่วงพักอาหารกลางวัน ที่ใจกลางเมืองเต็มไปด้วยผู้คน ทั้งพนักงานบริษัท และนักช้อปมากมาย โดยผู้รอดชีวิตรายสุดท้ายถูกพบตั้งแต่ 1 วันหลังจากนั้น
ทั้งนี้ เชื่อว่า เหยื่อที่เสียชีวิตมาจากมากกว่า 20 ประเทศ หลายรายเป็นนักเรียนต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่น และจีน จากโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ ในอาคารสูง 6 ชั้น ซึ่งพังทลายลงมาอย่างหมดสิ้น
ด้าน บ๊อบ ปาร์กเกอร์ นายกเทศมนตรีเมือง เสริมว่า ข่าวนี้ทำให้เป็นวันที่น่าเศร้าสลดสำหรับเมืองไครสต์เชิร์ชทีเดียว “เราจะยังคงหวังว่ามีปฏิหาริย์เกิดขึ้นที่นั่นต่อไป”
เจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 1,000 คนจากนิวซีแลนด์ และอีก 7 ประเทศ ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และไต้หวัน ทำงานกันตลอดทั้งกลางวันกลางคืนเพื่อหาผู้รอดชีวิต ทว่าพวกเขาก็พบแต่ร่างไร้วิญญาณ นับตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา (23)