เอเอฟพี - ในปีแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา และครอบครัว รวมถึงสมาชิกในคณะรัฐบาลของเขา ได้รับของขวัญอย่างมากมายจากกษัตริย์อับดุลเลาะห์ บิน อับดุล อาซิซ ของซาอุดีอาระเบีย เป็นมูลค่ามากกว่า 300,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 9 ล้านบาท
สำนักทะเบียนรัฐบาลกลางสหรัฐฯ รายงานว่า กษัตริย์อับดุลเลาะห์เคยมอบของขวัญให้แก่ประธานาธิบดีโอบามา เป็นมูลค่า 34,500 ดอลลาร์ ให้แก่สตรีหมายเลขหนึ่ง เป็นมูลค่า 146,200 ดอลลาร์ รวมถึงให้แก่มาเลีย และชาช่า ลูกๆ ของผู้นำสหรัฐฯ อีก 7,275 ดอลลาร์
พระมหาษัตริย์ของซาอุฯ ยังทรงเสนอของกำนัลให้แก่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรวมมูลค่า 108,245 ดอลลาร์ ของขวัญมูลค่า 23,400 ดอลลาร์ให้แก่ล่ามทางการทูตอาวุโสของสหรัฐฯ รวมถึงของขวัญมูลค่า 12,000 ดอลลาร์ให้แก่อุปทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงริยาดด้วย
ในจำนวนของขวัญมากมายที่โอบามาได้รับจากกษัติรย์อับดุลเลาะห์นั้น ชิ้นหนึ่งเป็นฉากทะเลทรายขนาดใหญ่บนพื้นหินอ่อนสีเขียว-ดำ ที่มีภาพต้นปาล์มสีทอง และอูฐจำนวนหนึ่ง รวมถึงนาฬิกาทองเหลือง และแก้วขนาดใหญ่ของเจเกอร์-เลอคูลทร์ ตามรายงานของสำนักทะเบียนดังกล่าว
ขณะที่กษัตริย์ซาอุฯ ทรงมอบเครื่องเพชรประดับทับทิม มูลค่า 132,000 ดอลลาร์ (4 ล้านกว่าบาท) เช่นเดียวกับสร้อยคอไข่มุกที่มีมูลค่า 14,200 ดอลลาร์ ให้แก่มิเชล โอบามา ส่วนลูกๆ ของพวกเขาก็ได้รับพระราชทานเครื่องเพชรมูลค่าหลายพันดอลลาร์ นอกเหนือจากหนังสือ และดีวีดีด้วย
นอกจากกษัตริย์ซาอุฯ แล้วยังมีบุคคลสำคัญของประเทศอื่นๆ เช่น เออร์เนสตินา นาดู มิลส์ สตรีหมายเลขหนึ่งของกานา ให้ของขวัญแก่มิเชล โอบามา เป็นนาฬิกาข้อมือทองคำ 18 กะรัตฝังเพชร สายหนัง ของแบ็กส์ แอนด์ สเตราส์ รุ่นแบล็กสตาร์ ออฟ กานา มูลค่า 48,000 ดอลลาร์
ประธานาธิบดีหูจิ่นเทาของจีนก็ให้ผ้าไหมทอเป็นรูปเหมือนครอบครัวผู้นำสหรัฐฯ ใส่กรอบอย่างดี มูลค่าราว 20,000 ดอลลาร์
มิยูกิ ฮาโตยามะ ภรรยาของอดีตนายกรัฐมนตรียูคิโอะ ฮาโตยามะของญี่ปุ่น ให้สร้อยไข่มุกมูลค่า 9,700 ดอลลาร์เป็นของขวัญแก่มิเชล โอบามา
ยิ่งไปกว่านั้น โอบามายังได้รูปปั้นสัมฤทธิ์เด็กผู้หญิงปล่อยนกพิราบ มูลค่า 8,000 ดอลลาร์จากประธานาธิบดีชิมอน เปเรซของอิสราเอลด้วย
ทั้งนี้ ของขวัญทุกชิ้นจะถูกนำไปเก็บไว้ในหอจดหมายเหตุแห่งชาติ เนื่องจากกฎหมายสหรัฐฯ ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐบาลคนใดรับของกำนัลจากรัฐบาลต่างชาติ แต่โอบามา และคนอื่นๆ ต้องรับของขวัญเหล่านั้นไว้เนื่องจากการปฏิเสธอาจสร้างความอับอายให้แก่ผู้ให้ และรัฐบาลสหรัฐฯ ได้
