เอเอฟพี - ยานพาหนะแถวยาวเหยียดพยายามหลบหนีออกจากเมืองโนวา ฟริเบอร์โก หนึ่งในเทศบาลที่ได้รับความเสียหายร้ายแรงจากอุทกภัยหายนะทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิล ที่คร่าชีวิตผู้คนไปร่วมๆ 500 ราย
รถยนต์นับร้อยคันต้องหยุดรอต่อคิวและค่อยๆคลานขึ้นถนนสายหลักที่ถูกดินถล่มซัดเสียไปครึ่งหนึ่งและใช้งานได้เพียงเลนเดียว ในความพยายามออกนอกเมือง แถมขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องคอยเปิดทางให้กับรถฉุกเฉิน ตำรวจและบรรทุกของทหารที่มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองด้วย
เมืองแห่งนี้คือศูนย์กลางของหายนะที่บังเกิดกับบราซิลในสัปดาห์นี้ ขณะที่หน่วยกู้ภัยยังไม่ลดละความพยายามในการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุน้ำไหลบ่าและโคลนถล่มที่คร่าชีวิตผู้คนในหลายพื้นที่ทางเขตหุบเขาใกล้กับนครริโอเดจาเนโร ไปแล้วกว่า 500 ศพ
ในโนวา ฟริเบอร์โก ถนนสายต่างๆแออัดไปด้วยยานพาหนะที่ขนผู้คนอพยพออกจากเมือง ส่วนบางคันก็ขับวนไปรอบๆในความพยายามค้นหาญาติมิตรที่สูญหาย จนทำให้ทีมช่วยเฉินต้องเปิดไซเรนขอทางอยู่ตลอด ขณะที่ตำรวจจราจรในชุดกันฝนต้องคอยทำหน้าที่เปิดทางให้รถตักดินผ่านไปก่อน
กระนั้นบรรยากาศในเมืองสัมผัสได้ถึงความอ้างว้างด้วยร้านค้าต่างๆปิดบริการทั้งหมด โดยเจ้าของร้านบางคนมีสีหน้าโศกเศร้า ท้อแท้ หมดหวังระหว่างยกหีบห่อสินค้าขึ้นรถบรรทุกเพื่ออพยพ ส่วนคนยากจนต้องไปคุ้ยแคะซากหักพังตามภูเขาต่างๆสำหรับอะไรก็ตามที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
ทว่าในความพยายามออกนอกเมืองของประชาชนโนวา ฟริเบอร์โก ต้องเจออุปสรรคสำคัญอีกอย่าง เมื่อหลายคนที่สามารถเดินทางได้เนื่องจากขาดแคลนน้ำมัน โดยมีรายงานว่า ณ สถานีบริการแห่งหนึ่งมีรถยนต์ต่อแถวรอเติมน้ำมันมากกว่า 60 คันเลยทีเดียว
ย่ายใจกลางของเมือง จตุรัสแห่งหนึ่งซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าโบสถ์สีขาวเต็มถูกแทนที่ไปด้วยโคลน ขณะที่ตู้โทรศัทพ์สาธารณะของเมืองจำนวนมากต้องจมอยู่ใต้โคลนที่สูงในระดับเอว ทั้งนี้แม้รถแทรกเตอร์พยายามอย่างหนักในการเข้าเคลียร์พื้นที่ แต่ดูเหมือนมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อย
"มันคือหายนะครั้งใหญ่หลวง เมืองแห่งนี้ถึงจุดจบแล้ว เมืองที่เคยเป็นแหล่งท่องเที่ยว ตอนนี้มันถึงจุดจบแล้ว" ชาวบ้านรายหนึ่งบอก ขณะที่โรงแรมต่างๆบอกว่าพวกเขาต้องสูญเสียรายได้มหาศาลหลายล้านดอลลาร์จากวิกฤตโคลนถล่มครั้งนี้ซึ่งเกิดขึ้น ณ เวลาที่ตามปกติแล้วจะเป็นช่วงต้นฤดูกาลพักผ่อนช่วงฤดูร้อนของพื้นที่แถบนี้
ทั้งนี้แม้รัฐบาลกลางและรัฐบาลแห่งรัฐ จะให้คำมั่นต่อการฟื้นฟูพื้นที่ แต่ด้วยขอบเขตความเสียหายที่กว้างขวาง จึงคาดหมายว่าคงต้องใช้เวลาอีกนานหลายปี