เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปรับลงมาแตะระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้งในวันศุกร์(26) จากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาดหมายของสหรัฐฯ ขณะที่วอลล์สตรีท ขยับเพียงเล็กน้อย หลังถูกฉุดโดยความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 53 เซนต์ ปิดที่ 80.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 32 เซ็นต์ ปิดที่ 79.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวในแดนลบของราคาน้ำมันมีขึ้นหลังจากมีข้อมูลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภครายใหญ่ของโลก เติบโตในอัตราที่ช้ากว่าที่คิดในไตรมาส 4 ขณะที่การใช้จ่ายภาคธุรกิจและผู้บริโภคเฉื่อยชาลงท่ามกลางการฟื้นตัวจากภาวะถดถอยที่เปราะบาง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคมปีก่อน อยู่ที่ 5.6 เปอร์เซ็นต์ ปรับลดจากที่ประมาณการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) น่าจะอยู่ที่ 5.9 เปอร์เซ็นต์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสานเมื่อวันศุกร์(26) เหตุนักลงทุนชั่งใจต่อการตัดสินใจเข้าช่วยวิกฤตหนี้สินกรีซของยูโรโซนและข่าวความเป็นไปได้ที่อาจเกิดความตึงเครียดรอบใหม่ในคาบสมุทรเกาหลี
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 9.15 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,850.36 จุด แนสแดค ลดลง 2.28 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,395.13 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.86 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,166.59 จุด
ตลาดปรับขึ้นในช่วงต้นของการซื้อขายตามหลังสหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงในการเข้าช่วยเหลือวิกฤตหนี้สินของกรีซ ทว่านักลงทุนหันมาเทขายทำกำไรในช่วงก่อนปิดตลาด หลังมีรายงานข่าวปรากฎออกมาว่าเรือรบเกาหลีใต้ซึ่งบรรทุกลูกเรือ 104 คน อัปปางใกล้น่านน้ำเกาหลีเหนือ หลังเกิดระเบิดอย่างไม่ทราบสาเหตุเมื่อวันศุกร์(26)
รัฐบาลเกาหลีใต้เรียกประชุมฉุกเฉินหน่วยงานด้านความมั่นคงในทันที ทว่าต่อมาเจ้าหน้าที่กองทัพระบุว่าไม่พบเครื่องบ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือมีส่วนพัวพันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น