เอเจนซี - สิงคโปร์, มาเลเซีย, และอินโดนีเซีย แถลงวันนี้(4) กำลังเพิ่มการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นช่องทางเดินเรือที่สำคัญยิ่งสำหรับการค้าโลก ภายหลังได้รับคำเตือนว่า อาจจะมีการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในบริเวณดังกล่าว
สมาคมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางเรือแห่งสิงคโปร์ (เอสเอสเอ) กล่าวในคำแนะนำที่ออกเมื่อวานนี้ ระบุว่าได้รับคำเตือนจากกองทัพเรือสิงคโปร์ว่ามีกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นกลุ่มใด กำลังวางแผนโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน ในช่องแคบมะละกา
ทั้งนี้ กองทัพเรือสิงคโปร์ได้แนะนำเรือต่างๆ ที่ใช้ช่องแคบแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างดินแดนของอินโดนีเซียกับมาเลเซีย เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดยิ่งขึ้น ขณะที่กองเรือยามฝั่งของมาเลเซียก็ได้ขยับระดับการรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้นแล้ว
ทางด้านอินโดนีเซียก็แจ้งว่ากำลังทำอย่างเดียวกัน โดยที่รัฐมนตรีกลาโหม ปูร์โนโม ยัสกิอันโนโร กล่าวว่า “เราจะเพิ่มการรักษาความปลอดภัยและเพิ่มระดับการตรวจการณ์ในบริเวณดังกล่าว เรือบรรทุกน้ำมันจะยังสามารถผ่านได้ แต่เราจะต้องเพิ่มการเตรียมพร้อมของเรา”
มีความกังวลกันมานานแล้วว่า การโจมตีที่ถึงขั้นปิดช่องแคบมะละกา หรือที่ทำให้ต้องปิดท่าเรือสิงคโปร์ แม้กระทั่งเพียงชั่วคราวก็ตาม ก็สามารถสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อการค้าของโลกได้ เนื่องจากช่องแคบมะละกาเป็นเส้นทางเดินเรือที่คับคั่งที่สุดในโลก และพวกเรือบรรทุกน้ำมันต้องเดินทางผ่านในการลำเลียงน้ำมันจากตะวันออกกลางไปยังจีนและญี่ปุ่น ขณะที่สิงคโปร์เป็นท่าเรือขนถ่ายสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ชั้นนำของโลก และเป็นศูนย์เติมน้ำมันของเรือพาณิชย์ทั้งหลายซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก
“การโจมตีทางทะเลเป็นการเสนอทางเลือกอีกทางหนึ่งให้แก่พวกผู้ก่อการร้าย ในการสั่นคลอนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอย่างใหญ่โตมหึมา” ปีเตอร์ ชอล์ก นักวิเคราะห์ด้านความเสี่ยงของการก่อการร้าย กล่าวในรายงานของบริษัทแรนด์ ว่าด้วยภัยโจรสลัดและการก่อการร้ายทางทะเล
ชอล์กชี้ด้วยว่า เนื่องจากระบบการค้าของโลกในปัจจุบัน อยู่ในลักษณะที่มุ่งหมายให้สินค้าจำนวนแค่เพียงพอใช้ ไปให้ถึงที่หมายได้ทันเวลา ดังนั้น ถ้าหากกลไกของการขนส่งสินค้าถูกรบกวน ก็สามารถจุดชนวนให้เกิดผลลัพธ์ทางการคลังอย่างต่อเนื่องเป็นทอดๆ อันกว้างขวางยิ่ง “โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหากท่าเรือพาณิชย์แห่งสำคัญถูกขัดขวางไม่ให้ดำเนินงานได้” นักวิเคราะห์ผู้นี้บอก
สมาคมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางเรือแห่งสิงคโปร์ ระบุว่า คำเตือนของตนไม่เจาะจงเฉพาะเรือบรรทุกน้ำมันเท่านั้น หากคลุมถึงเรือสินค้าขนาดใหญ่อื่นๆ ด้วย
ทางด้าน น.อ.สุธีพงศ์ แก้วทับ ผู้ช่วยทูตทหารเรือของไทยประจำสิงคโปร์ กล่าวว่า คำเตือนเรื่องนี้เริ่มแรกเลยมาจากญี่ปุ่น โดยเป็นการแจ้งสำนักงานเดินเรือทะเลระหว่างประเทศ (ไอเอ็มบี) ว่า เรือที่ใช้ช่องแคบมะละกาอาจจะถูกจี้ปล้น จากนั้นไอเอ็มบีได้เตือนกองทัพเรือต่างๆ ในภูมิภาคแถบนี้ ถึงภัยโจรสลัดนี้
“ต่อมา พวกเขาได้เปลี่ยนถ้อยคำเป็น “การโจมตีของผู้ก่อการร้าย” เนื่องจากหวั่นเกรงกันว่าพวกนี้อาจะใช้อาวุธหนักเข้าโจมตีเรือเหล่านี้” น.อ.สุธีพงศ์กล่าว
ทางด้าน โนเอล ชุง โฆษกของไอเอ็มบีซึ่งตั้งฐานอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ แถลงว่า ได้รับข่าวเรื่องนี้จากหน่วยงานของรัฐบาลต่างประเทศรายหนึ่ง และเมื่อถูกถามว่า เรื่องนี้เป็นภัยคุกคามจากผู้ก่อการร้ายหรือโจรสลัด ชุงก็ตอบว่า “มันเป็นภัยคุกคามจากผู้ก่อการร้าย”