เอเจนซี – พายุ “ซินเทีย” พัดถล่มอย่างหนักทั่วพื้นที่ยุโรปตะวันตกในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิตในฝรั่งเศสถึง 50 คน สเปน 3 คน เยอรมนี 2 คน และโปรตุเกส 1 คน คาดความเสียหายจะแผ่ขยายออกไป ขณะที่ทั้งลมและฝนที่กระหน่ำอย่างรุนแรงเคลื่อนตัวขึ้นสู่ทางเหนือ
พายุรุนแรงได้พัดกระหน่ำใส่เมืองต่างๆ ทำให้บรรดาต้นไม้และป้ายสัญญาณตามท้องถนนโค่นล้มและหักลง พวกเครือข่ายรถไฟก็เกิดความปั่นป่วนโกลาหล และสนามบินไม่ว่าจะในปารีสหรือแฟรงค์เฟิร์ต ต่างต้องระงับเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวด้วยกัน
ฝรั่งเศสได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากฝนที่ตกหนัก พายุลมแรง และระลอกคลื่นดุจัด ที่อาละวาดเข้าทำลายเขื่อนกั้นน้ำทะเลบริเวณชายฝั่งแอตแลนติก แล้วเข้าท่วมท้นเขตตัวเมือง โดยที่เมืองลิกิญอง ซูร์ แมร์ แห่งเดียวมีผู้เสียชีวิตไปถึง 25 คน
“ต้องถือว่าเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ” บริซ ออเตฟูซ์ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสกล่าว และคาดการณ์ด้วยว่ายอดผู้เสียชีวิตในฝรั่งเศสโดยรวมคงอยู่ระหว่าง 45-50 คน นอกจากนั้นเขายังกล่าวเตือนด้วยว่าระดับน้ำที่สูงขึ้นอาจทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้น
รัฐบาลฝรั่งเศสจัดสรรเงิน 1 ล้านยูโรเพื่อให้ความช่วยเหลือทันที เอริก เวิร์ธ รัฐมนตรีกระทรวงงบประมาณก็ออกแถลงการณ์ระบุว่าผู้ประสบภัยสามารถแจ้งขอลดหย่อนภาษีได้
ทั้งนี้ พื้นที่ริมทะเลในแถบแวงดี และ คาเรนเต ได้รับความเสียหายหนักที่สุด และมีการประกาศเตือนภัยน้ำท่วม เช่นเดียวกับพื้นที่บางส่วนของแคว้นบริตานี
ทางด้านสถานีวิทยุฟรานซ์ อินโฟรายงานว่าต้นไม้อายุนับร้อยปี ในบริเวณสวนของพระราชวังแวร์ซายใกล้กรุงปารีส หักโค่นลงหลายต้น
เจ้าหน้าที่อุตุนิยมคาดการณ์ว่า พายุ “ซินเทีย” กำลังเคลื่อนตัวขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศสและเบลเยียม โดยอาจเคลื่อนต่อไปถึงเดนมาร์กด้วย ขณะที่สำนักอุตุนิยมวิทยาฝรั่งเศสระบุว่า พายุลูกนี้ยังมีความรุนแรงน้อยกว่าพายุที่เคยกระหน่ำในฝรั่งเศสเมื่อเดือนธันวาคมปี 1999 ซึ่งทำให้ประชาชน 92 คนเสียชีวิต
สำหรับความลำบากเดือดร้อนของผู้ประสบภัย ผู้หญิงคนหนึ่งในเมืองลิกิญอง ซูร์ แมร์ เล่าให้สถานีโทรทัศน์ M6 ฟังว่าเธอต้องว่ายน้ำจากบ้านทางห้องน้ำกลางดึก แล้วขึ้นไปอยู่รวมกับเพื่อนบ้านบนหลังคา
ส่วนชายอีกคนหนึ่งซึ่งต้องปีนขึ้นไปอยู่บนหลังคาร้านอาหารที่เขาทำงานอยู่ตลอดทั้งคืนเล่าว่า “มันเหมือนกับเราอยู่บนเกาะเลย”
ที่สเปนมีผู้เสียชีวิต 2 คนใกล้กับเมืองบูร์โกส ทางเหนือของประเทศ เนื่องจากรถยนต์ของคนทั้งสองชนเข้ากับต้นไม้ที่โค่นลงมา แล้วยังผู้หญิงอีกคนหนึ่งถูกกำแพงถล่มทับลงมาเสียชีวิต
ส่วนที่โปรตุเกสซึ่งแม้ปกติจะมีพายุลมแรงเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นขึ้นสูง จึงต้องประกาศเตือนภัยน้ำท่วมในพื้นที่แถบปอร์โตริมแม่น้ำโดอุโร และมีเด็กหญิงวัย 10 ขวบคนหนึ่งเสียชีวิตเพราะต้นไม้ล้มทับ ที่เยอรมนี ชายวัย 69 ปีถูกต้นไม้ล้มทับในระหว่างที่กำลังปีนเขา ชายวัย 74 ปีอีกคนหนึ่งเสียชีวิต และภรรยาของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อต้นไม้โค่นทับรถยนต์ของพวกเขา