เอเจนซี - ยอดตายแผ่นดินไหวขนาดรุนแรงระดับ 8.8 ในชิลีเพิ่มขึ้นเท่าตัว แตะกว่า 700 ศพ ขณะที่ทางการประกาศเคอร์ฟิว ส่งทหารนับหมื่นไปยังพื้นที่ประสบภัย หลังจากภาวะขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม ทำให้ประชาชนออกมาปล้มชิงสะดมกันทั่วเมืองที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง
รัฐบาลชิลีเมื่อวันอาทิตย์(28)เผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของโลก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 350 คนเป็น 711 คนแล้ว และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่ภาพจากสถานีโทรทัศน์เผยให้เห็นอาคารบ้านเรือนหลายพันหลัง ทางต่างระดับ สะพาน ถล่มลงมา ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อระบบสาธารณูปโภคในประเทศแห่งนี้ ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองแดงอันดับหนึ่งของโลก และเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมากที่สุดในละตินอเมริกา
ประธานาธิบดีมิเชลล์ บาเชอเลต์ ผู้นำชิลี ระบุว่า ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นคราวนี้นับเป็นภัยภิบัติครั้งมโหฬาร มีรายงานจำนวนผู้สูญหายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีผู้ประสบภัยถึงราว 2 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางการต้องประกาศเคอร์ฟิว หรือห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานในยามวิกาล หลังจากเกิดความกังวลด้านความปลอดภัยมากขึ้น เมื่อมีรายงานว่าเกิดการปล้นชิงสะดมในหลายพื้นที่
ทั้งนี้ รัฐบาลชิลีประกาศหรือเคอร์ฟิว ใน 2 เมืองที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวหนักที่สุด ได้แก่ เมืองเมาเล ทางภาคกลาง และเมืองคอนเซปซีออน เมืองใหญ่อันดับ 2 ของชิลีและอยู่ห่างจากรุงซันติอาโก เมืองหลวงของประเทศไปทางใต้ประมาณ 500 กิโลเมตร ขณะที่ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตา และปืนน้ำแรงดันสูงไล่กลุ่มคนร้ายที่ออกปล้นสะดม
นอกจากนี้ ทางการชิลียังระดมกำลังทหาร 10,000 คน มาช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยด้วย ส่วนทหารอากาศเริ่มใช้เครื่องบินลำเลียงอาหาร และสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ได้รับความเสียหายหนักซึ่งถูกตัดขาดจากแผ่นดินไหว