ผู้แพ้เลือกตั้ง ปธน.ศรีลังกาถูกรวบตัว ฐานวางแผนรัฐประหาร

เอเอฟพี - พล.อ.สารัธ ฟอนเซกา ผู้สมัครที่พ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีศรีลังกา ถูกจับกุมเมื่อวันจันทร์(8) และเจอข้อหากระทำความผิดตามกฎหมายทหารขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพและเกี่ยวข้องกับแผนก่อรัฐประหารรัฐบาล

พล.อ.สารัธ ฟอนเซกา นายพลปลดเกษียณซึ่งพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีแก่นาย มหินทา ราชปักษา เมื่อวันที่ 26 มกราคม เวลานี้ถูกควบคุมตัวอยู่ในคุก หลังจากทหารบุกเข้าไปรวบตัวเขา ณ สำนักงานของพันธมิตรฝ่ายค้านที่สนับสนุนเขาให้ลงชิงตำแหน่งผู้นำประเทศ

“พวกเขาบังคับและนำตัว พล.อ.ฟอนเซกาไป ขณะที่เขากำลังหารือกับแกนนำฝ่ายค้านระดับอาวุโสคนอื่นๆ อีก 3 คน” โฆษกของพรรคพีเพิลส์ ลิเบอเรชั่นฟรอนต์บอกกับเอเอฟพี “ท่านนายพลปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม ดังนั้น พวกเขาจึงคว้าตัวเขาและหิ้วออกไปหลังจากขู่คนอื่นๆ มีทหารมาที่นี่มากกว่า 100 นาย”

สำนักงานของพันธมิตรฝ่ายค้านถูกปิดล้อมด้วยทหารติดอาวุธหนัก โดยห้ามผู้สื่อข่าวและช่างภาพเข้าไปภายในตัวอาคาร ขณะที่เดลีนิวส์ สื่อมวลชนแห่งรัฐ รายงานว่า ฟอนเซกา วัย 59 ปี ถูกจับในฐานกระทำความผิดตามกฎหมายทหาร

ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าถูกจับกุม ฟอนเซกาบอกกับผู้สื่อข่าว ณ สำนักงานเดียวกันนี้ว่าเขาพร้อมเผชิญการตรวจสอบระดับสากลในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม จากปฏิบัติการทางทหารเข้าปราบปรามกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬเมื่อปีที่แล้ว

ตรงข้ามกับรัฐบาลที่พยายามขัดขวางเสียงเรียกร้องจากนานาชาติที่ต้องการเข้าสืบสวนเหตุนี้ท่ามกลางข้อกล่าวหาที่ว่ามีเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมระดับสูงรายหนึ่ง สั่งการให้ฆ่าบรรดาแกนนำกลุ่มกบฏที่ยอมแพ้แล้วอย่างเลือดเย็น

“ผมเตรียมจะไปให้การต่อคณะสืบสวนและมอบหลักฐานพยานแก่พวกเขา” ฟอนเซกา กล่าว “ผมจะไม่ปกป้องใครหากพวกเขาก่ออาชญากรรมสงคราม ผมคงเป็นคนที่ไม่รักชาติหากไปปกป้องผู้ที่ก่ออาชญากรรมสงคราม”

การเข้าจับกุมอย่างกะทันหันมีขึ้นเพียง 1 วันหลังจากหนังสือพิมพ์เอกชนรายหนึ่งรายงานว่า ฟอนเซกา อาจถูกนำตัวขึ้นศาลทหารเพื่อให้การในข้อกล่าวหาต่างๆเกี่ยวกับแผนรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาล

ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีราชปักษา มีคำสั่งปลดเจ้าหน้าที่ทหารระดับอาวุโสหลายสิบคน หลังกระทรวงกลาโหมระบุว่าบุคคลเหล่านี้เป็น “ภัยคุกคามโดยตรง” ต่อความมั่นคงแห่งชาติ

ระหว่างการชิงชัยแบบตัวต่อตัวในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี ทั้ง ฟอนเซกา และราชปักษา ต่างอ้างเครดิตในความสำเร็จทางทหารในการปราบปรามกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬที่ต่อสู้กันมานาน 37 ปีได้อย่างเด็ดขาด

การณรงค์หาเสียงเลือกตั้งสู้กันอย่างดุเดือดและมีสาวไส้กันถึงเรื่องส่วนตัว โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวหาฝ่ายตรงข้ามคอร์รัปชันและประพฤติผิดประเวณี

ราชปักษา ได้รับชัยชนะอย่างง่ายดาย แต่ทาง ฟอนเซกา ยื่นคัดค้านผลการเลือกตั้งต่อศาลฎีกา และขณะที่รัฐบาลยืนกรานว่าศึกเลือกตั้งเป็นไปอย่างเสรีและยุติธรรม แต่ทางสหรัฐฯและคณะกรรมาธิการยุโรป กดดันให้ดำเนินการตรวบสอบข้อกล่าวหาทุจริตอย่างกว้างขวาง

ในคืนวันนับคะแนน ทหารเข้าปิดล้อมโรงแรมที่พักของ ฟอนเซกาและผู้นำฝ่ายค้านคนอื่นๆ โดยฟอนเซกา อ้างว่าเป็นความพยายามจับกุมเขา แต่ทางกองทัพปฏิเสธและชี้แจงว่าทหารถูกส่งไปจับกุมนายทหารหนีทัพที่อยู่กับฟอนเซกา ซึ่งคนเหล่านั้นถูกต้องสงสัยว่ากำลังวางแผนก่อรัฐประหารหรือลอบสังหารราชปักษาและครอบครัว

นับตั้งแต่นั้น รัฐบาลได้จับกุมเจ้าหน้าที่ของฟอนเซกา อย่างน้อย 37 คน ในจำนวนนั้นรวมไปถึงอดีตนายทหารที่ทำงานให้กับเขา ขณะเดียวกันทางกองทัพก็บังคับให้เจ้าหน้าที่อาวุโสผู้ภักดีต่อ ฟอนเซกา เกษียนตัวเองฐานยุ่งเกี่ยวกับการเมือง