เอเอฟพี - ความช่วยเหลืออันล่าช้าด้านอาหาร น้ำและที่อยู่อาศัย แก่พลเรือนผู้จนตรอกในเมืองหลวงเฮติ กำลังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดจลาจล รัฐมนตรีกลาโหมบราซิลเตือน ขณะเดียวกันมีข่าวดีหลังหน่วยกู้ภัยสามารถช่วยผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากตึกโรงแรมใหญ่ที่สุดในประเทศแถบแคริบเบียนแห่งนี้ได้ 23 คน
"เรากังวลเกี่ยวกับความมั่นคง" เนลสัน โจบิม บอกกับผู้สื่อข่าวขณะเดินทางกลับมาถึงกรุงบราซิเลีย หลังจากเข้าร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในปอร์โตแปร็งเป็นเวลา 2 วัน "ตราบใดที่ผู้คนยังคงหิวโหยและกระหายน้ำ ตราบใดที่เรายังไม่อาจแก้ไขปัญหาที่พักพิงชั่วคราว เราก็ตกอยู่ในความเสี่ยงของเหตุจลาจล"
ทหารบราซิลเป็นหนึ่งในกองกำลังรักษาสันติภาพสหประชาชาติ 9,000 นายที่ประจำการในเฮติก่อนแผ่นดินไหว และได้ส่งทหารของตนเองเพิ่มเติมอีก 1,260 นายสำหรับปฏิบัติการกู้ภัย ขณะที่บราซิลสูญเสียพลเรือนไปในหายนะครั้งนี้ 17 คน
ทั้งนี้บราซิล ได้ส่งเครื่องบินบรรเทาทุกข์ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเฮติแล้วอย่างน้อย 6 ลำ ในจำนวนนั้นมีทั้งน้ำ อาหารและยา พร้อมเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ นอกจากนี้ก็เตรียมจะส่งเครื่องบินบรรเทาทุกข์เพิ่มเติมอีกในวันศุกร์(15)
ด้าน บันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ เปิดเผยว่าเขาจะเดินทางไปยังเฮติโดยเร็วที่สุด เพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผู้ประสบภัยและคณะเจ้าหน้าที่ยูเอ็น ซึ่งต้องมาสังเวยชีวิตในเหตุแผ่นดินไหวเป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกันทางสหประชาชาติได้คาดหมายว่ามีประชาชนเฮติราว 300,000 คนที่ต้องไร้ที่อยู่อาศัยตามหลังหายนะครั้งร้ายแรง และบ้านเรือนราษฎร 1 ใน 10 ของเมืองหลวงถูกทำลายโดยสิ้นเชิง
เฮลิคอปเตอร์ประเมินความเสียหายของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการยูเอ็นในเฮติ พบว่าในบางพื้นที่รอบกรุงปอร์โตแปร็ง "ได้รับความเสียหายกว่า 50 เปอร์เซ็นต์" ขณะที่หน่วยกู้ภัยต้องประสบความยากลำบากในการเข้าสู่บริเวณซากปรักหักพัง
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าทีมกู้ภัยสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของโรงแรมใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงของเฮติได้ 23 คน หลังโรงแรมหรูแห่งนี้พังถล่มลงมาจากแรงเขย่าของแผ่นดินไหว หัวหน้าทีมกู้ภัยของชิลีเปิดเผยเมื่อวันศุกร์(15)
"ทีมผู้เชี่ยวชาญของชิลีมาถึงเมื่อคืนพร้อมกับสุนัขค้นหา และร่วมมือกับทีมกู้ภัยของชาติอื่นๆ และสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิต 23 คน จากโรงแรมมอนแทนา" ฮวน กาเบรียล วัลเดส อดีตหัวหน้ากองกำลังรักษาสันติภาพสหประชาชาติประจำเฮติ บอกกับสถานีวิทยุแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เปิดเผยสัญชาติของผู้รอดชีวิตเหล่านั้น
อนึ่งโรงแรมมอนแทนา ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาที่มองลงไปเห็นกรุงปอร์โตแปร็ง อย่างชัดเจน เป็นสถานที่พักสุดหรูยอดนิยมของบรรดาท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่องค์กรต่างชาติ
ทั้งนี้เมื่อวันพฤหัสบดี(14) ทีมกู้ภัยของสหรัฐฯและฝรั่งเศส ก็สามารถช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังได้หลายสิบคนเช่นกัน