xs
xsm
sm
md
lg

หวั่น 'ขัดแย้ง' ศาสนาที่มาเลย์ลาม โบสถ์คริสต์ถูกลอบเผาเพิ่มเป็น 8

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคของมาเลเซียเดินทางเยือนสถานที่เกิดเหตุในวันเสาร์ (9) ที่ผ่านมา
เอเอฟพี/เอเจนซี – หวั่นความขัดแย้งทางศาสนาในมาเลเซียลุกลาม วานนี้(10) มีโรงเรียนคอนแวนต์ 1 แห่ง และโบสถ์คริสต์อีก 4 แห่งถูกลอบวางเพลิงหรือขว้างปา รวมมีโบสถ์คริสต์ 8 แห่งแล้วที่ถูกเล่นงานนับตั้งแต่วันศุกร์(8) ซึ่งศาลแดนเสือเหลืองตัดสินว่า ชาวคริสต์สามารถใช้คำว่า “อัลเลาะห์” ในการแปลคำว่าพระเจ้าในศาสนาของตนให้เป็นภาษามาเลย์ จนสร้างความไม่พอใจแก่ชาวมุสลิม



ตำรวจรัฐเประ และตำรวจเมืองไทปิง ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐเประ และห่างจากเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์ราว 300 กิโลเมตร แถลงว่า ตอนเช้าวานนี้ได้มีผู้โยนระเบิดขวดน้ำมัน เข้าไปที่บ้านพักยามรักษาการณ์ ของโรงเรียนคอนแวนต์คาทอลิกแห่งหนึ่ง ทว่าระเบิดไม่ทำงาน

นอกจากนั้น ยังพบขวดที่แตกแล้วหลายขวด ซึ่งบางขวดบรรจุน้ำมันทินเนอร์เอาไว้ด้วย ที่บริเวณด้านนอกของโบสถ์ “ออล เซนต์ เชิร์ช” ซึ่งเป็นโบสถ์คริสต์นิกายแองกลิคันที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของมาเลเซีย และตั้งอยู่ในเมืองไทปิงเช่นกัน ทั้งนี้เหตุเกิดก่อนที่ผู้คนจะเข้าร่วมพิธีมิสซาตอนเช้าวันอาทิตย์ โดยที่ได้พบรอยดำๆ อยู่บนกำแพงของโบสถ์ อันส่อแสดงว่ามีไฟลุกขึ้นมาทว่าไม่ได้ติดลามสร้างความเสียหายใหญ่โตอะไร

ในเมืองไทปิง ยังมีโบสถ์เซนต์หลุยส์ ที่เป็นโบสถ์คาทอลิก ก็ได้พบขวดน้ำมันก๊าดที่ถูกโยนเข้ามา แต่โบสถ์ไม่มีความเสียหายใดๆ
ตำรวจมาเลเซียยังระบุว่า ที่โบสถ์ของนิกายแบปติสต์แห่งหนึ่ง ทางตอนกลางของรัฐมะละกา ได้พบรอยเปื้อนสีดำที่บริเวณหน้าต่างโบสถ์เช่นกัน ส่วนที่โบสถ์ “กู๊ด เชปเพิร์ด” ในรัฐซาราวัก ก็ถูกขว้างก้อนหินใส่

ก่อนหน้านี้มีโบสถ์คริสต์ในกัวลาลัมเปอร์ 4 แห่งได้ถูกปาระเบิดขวดน้ำมันใส่ นับตั้งแต่วันศุกร์เป็นต้นมา

อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ยังคงมีชาวคริสต์ไปร่วมพิธีมิสซาวันอาทิตย์กันอย่างหนาตา เป็นต้นว่าที่โบสถ์อัสสัมชัญ ของชาวคาทอลิกในกัวลาลัมเปอร์ มีคริสต์ศาสนิกชนไปกันราว 1,000 คน แม้ว่าโบสถ์แห่งนี้ถูกระเบิดจนบริเวณพื้นได้รับความเสียหายบางส่วนก็ตาม

“ผมบอกทุกคนว่าเราไม่ต้องการประณามใคร หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือศาสนาใดๆ เราต้องการสันติภาพและมาที่นี่เพื่อสวดมนต์เพื่อประเทศชาติของเรา” บาทหลวงฟิลิปส์ มิวทู กล่าวและว่า “เรากลัวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป”

ส่วนที่โบสถ์เมโทร ทาเบอร์นาเคิล ซึ่งถูกระเบิดเสียหายหนักที่สุดในวันศุกร์ ต้องเปลี่ยนสถานที่ประกอบพิธีมิสซาวันอาทิตย์ ไปยังหอประชุมของพรรครัฐบาล โดยมีผู้เข้าร่วมพิธีราว 1,000 คน

เฮอร์เมน ศาสตรี เลขาธิการสภาคริสตจักรในมาเลเซียกล่าวว่า “การก่อเหตุที่เกิดขึ้นดูเหมือนไม่ได้มุ่งโจมตีอย่างรุนแรง แต่มีลักษณะของการกลั่นแกล้งมากกว่า ใครบางคนคงพยายามจะส่งสัญญาณบอกว่าพวกเขารู้สึกไม่พอใจ”

“แต่แน่นอนว่าเราไม่ได้ตาบอดมองไม่เห็นภัยคุกคามที่อันตรายเหล่านี้ ดังนั้นโบสถ์ต่างๆ จึงต้องมีมาตรการที่จะเพิ่มความปลอดภัยของบริเวณโดยรอบ และมอบความไว้วางใจแก่เจ้าหน้าที่ซึ่งจะคอยเฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัยให้ด้วย”

ปัจจุบัน ชาวคริสต์นิกายต่างๆ ในมาเลเซีย รวมแล้วเท่ากับราว 10 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร 27 ล้านคน

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ได้เรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบและให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะไม่อดทนกับภัยคุกคามต่อความปรองดองกันทางเชื้อชาติศาสนาของประชาชน

ความขัดแย้งทางศาสนาในมาเลเซียทำท่าปะทุรุนแรงขึ้นตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ หลังจากที่ชาวมุสลิมซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่พอใจที่ศาลสูงตัดสินให้หนังสือพิมพ์เฮรัลด์ คาทอลิก ใช้คำว่า “อัลเลาะห์” แทนคำว่าพระเจ้าในศาสนาคริสต์ได้ โดยที่มีชาวมุสลิมออกมาประท้วงตามมัสยิดต่างๆ ราว 10 แห่งทั่วประเทศ

คำตัดสินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกระแสความขัดแย้งทางศาสนาที่มีมาอย่างต่อเนื่องในระยะหลัง ระหว่างชาวมาเลย์ กับชาวจีน และชาวอินเดีย โดยที่ชาวจีนและอินเดียรู้สึกหวั่นเกรงมากขึ้นว่าประเทศมาเลเซียกำลังจะถูกแปรไปเป็นชาติอิสลามอันเข้มงวดเคร่งครัด
กำลังโหลดความคิดเห็น