เอเอฟพี - ราคาน้ำมันร่วงลงเป็นวันที่ 9 ติดต่อกันเมื่อวันจันทร์(14) ท่ามความกังวลอุปทานล้นเกินความต้องการแม้เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว ขณะที่วอลล์สตรีทปิดในแดนบวก ตามหลังข่าวอาบูดาบี ยอมปล่อยกู้ให้ดูไบ และซิตี้กรุ๊ป แถลงแผนออกจากการกู้ยืมรัฐบาลสหรัฐฯ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 36 เซนต์ ปิดที่ 69.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งของการซื้อขายดิ่งลงไปถึง 68.59 ดอลลาร์ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน เพิ่มขึ้น 1 เซ็นต์ ปิดที่ 71.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แนวโน้มของราคาน้ำมันบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกที่แม้ว่ากำลังหลุดพ้นจากภาวะถดถอย แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะผลักดันให้อุปสงค์ทางพลังงานสูงขึ้น ซึ่งสวนทางกับอุปทานที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ด้านวอลล์สตรีทเมื่อวันจันทร์(14) ปิดตัวในแดนบวกตามหลังตลาดหุ้นทั่วโลกซึ่งได้ปัจจัยหนุนจากที่ “อาบูดาบี” อัดฉีดเงินกู้ช่วยชีวิตเพื่อไม่ให้ “ดูไบ” ตกอยู่ในสภาพไม่สามารถชำระคืนพันธบัตรอิสลามที่ครบกำหนดไถ่ถอน และถ้อยแถลงของซิตี้กรุ๊ปเกี่ยวกับแผนใช้หนี้เงินกู้คืนแก่รัฐบาลสหรัฐฯ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 28.95 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,500.45 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 21.58 จุด (0.99 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,211.89 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 7.85 จุด (0.71 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,114.86 จุด
ความเคลื่อนไหวในแดนบวกของวอลล์สตรีทมีขึ้นตามหลังตลาดหุ้นดูไบ ทะยานกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ จากปัจจัยบวก อาบูดาบี อัดฉีดเงินกู้ช่วยชีวิต 10,000 ล้านดอลลาร์แก่ กองทุนสนับสนุนทางการเงินดูไบ ซึ่งจะได้นำไปใช้เพื่อตอบสนองพันธะผูกพันต่างๆ ของดูไบ เวิลด์ ที่กำลังจะถึงเวลาครบกำหนดเป็นลำดับ
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้แรงหนุนจากการตัดสินใจของซิตี้กรุ๊ป ในการเตรียมคืนเงินกู้แก่โครงการการลดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP) ของรัฐบาลสหรัฐฯ ผ่านทางหุ้นและตราสารหนี้ ส่วน เอ็กซอนโมบิล ก็เตรียมเข้าซื้อกิจการของ เอ็กซ์โอที เอเนอร์จี ด้วยวงเงิน 31,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน