มหาเศรษฐีพรรคอนุรักษ์นิยมคว้าชัยชนะเลือกตั้ง ปธน.ชิลี

เอเอฟพี/เอเจนซี - เซบาสเตียน ปิเนรา มหาเศรษฐีจากพรรคอนุรักษ์นิยมของชิลี คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี อย่างไรก็ตาม เขาจะต้องแข่งขันในการเลือกตั้งรอบตัดเชือกกับผู้สมัครอีกคน เนื่องจากได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ 50

ผลการนับคะแนนจากคูหาร้อยละ 58 ของกระทรวงมหาดไทยชิลี ปรากฏว่า ปิเนรา นักธุรกิจพันล้านวัย 60 ปี และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กวาดคะแนนไปร้อยละ 44 เหนืออดีตประธานาธิบดีเอดูอาร์โด เฟรย์ วัย 67 ปี ซึ่งได้คะแนนร้อยละ 30 ทำให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีชิลีรอบสองเพื่อชี้ขาด ในวันที่ 17 มกราคมนี้ เนื่องจากไม่มีผู้สมัครคนใดได้คะแนนเกินร้อยละ 50

การเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์(13) ยังเป็นการสรรหาสมาชิกสภาคองเกรสของชิลี 138 ที่นั่ง แบ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎร 120 ที่นั่ง และวุฒิสภา 38 ที่นั่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ชัยชนะของปิเนรา ในการเลือกลงเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นแรงส่งให้เขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งในเดือนหน้านี้ ซึ่งจะทำให้โฉมหน้าการเมืองของชิลีเปลี่ยนแปลงไป หลังจากที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของพรรคฝ่ายซ้ายมานานถึง 2 ทศวรรษ

ชัยชนะของปิเอราในเดือนมกราคม จะปิดฉากอำนาจของพรรคฝ่ายซ้ายที่พัฒนาชิลีให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของภูมิภาคอเมริกาใต้ นับตั้งแต่ระบบเผด็จการของออกุสโต ปิโนเชต์ ระหว่างปี 1973-1990 สิ้นสุดลง และนับเป็นการเปลี่ยนขั้วอำนาจไปเป็นฝ่ายขวา อย่างไรก็ตามคาดว่า ปิเนรา จะไม่ถึงกับยกเครื่องนโยบายทางเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้ชิลีมีเสถียรภาพได้จนถึงทุกวันนี้

ชิลี เป็นประเทศส่งออกทองแดง ผลไม้ และปลาแซลมอน มีประชากร 16 ล้านคน และพรรคฝ่ายค้านยังไม่เคยชนะการเลือกตั้งมานานร่วม 50 ปี พลเอกปิโนเชต์ ก่อรัฐประหารยึดอำนาจในปี 1983 มีคนถูกสังหารคนหรือสูญหายไปกว่า 3,000 คน ระหว่างที่เขาเรืองอำนาจ 17 ปี ขณะที่พรรคฝ่ายซ้ายได้รับเครดิตจากการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน แต่หลายปีที่ผ่านมากลับอ่อนแอลงเพราะการแย่งชิงและการแปรพักตร์ภายในพรรค

นักวิเคราะห์ระบุว่า บรรดาผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต่างเชื่อว่า พรรคฝ่ายซ้ายยังไม่ช่วยออะไรได้มากพอที่จะกระจายรายได้จากทองแดงมูลค่านับพันล้านดอลลาร์ผ่านโครงการสวัดิการสังคมต่างๆ สู่ประชาชน รวมถึงการปรับปรุงการศึกษา และระบบสาธารณสุขด้วย