เอเจนซี/เอเอฟพี - นักเคลื่อนไหวทั่วโลกออกมาชุมนุมตามเมืองใหญ่ในออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และฮ่องกง ในวันนี้(12) เพื่อกดดันให้ผู้นำโลกแก้ไขปัญหาโลกร้อน ระหว่างที่การประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในกรุงโคเปนเฮเกน
ผู้ชุมนุมรวมตัวตามเมืองใหญ่ๆ ในออสเตรเลีย โดยกลุ่มใหญ่ที่สุดอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น พวกเขาเรียกร้องให้บรรดาผู้นำโลก และนักการเมืองใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อควบคุมประเทศต่างๆ ให้ลดปริมารการปล่อยก๊่าซเรือนกระจก และกำหนดข้อตกลงระดับโลกฉบับใหม่ในการจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแทนพิธีสารเกียวโตด้วย
ตำรวจเผยว่าในเมลเบิร์นมีผู้ชุมนุมหลายพันคน ขณะที่ผู้จัดการชุมนุมอ้างว่า มีถึง 4 พันคน ขณะที่ในนครซิดนีย์ ช่างภาพของรอยเตอร์คาดคะเนว่ามีผู้ประท้วงเป็นพันคน
ผู้ประท้วงในออสเตรเลียยังระบุว่า พวกเขาต้องพลังงานสะอาด และขอให้ลดการใช้ปริมาณถ่านหิน ทั้งนี้ ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก และพึ่งพาถ่านหินเพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างมาก
ที่ฟิลิปปินส์ ผู้ชุมนุมหลายร้อยคนที่ศาลาว่าการกรุงมะนิลาส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา พวกเขาต่างพร้อมใจใส่เสื้อสีแดง ตีกลอง และเคาะกระบอกไม้ไผ่ เพื่อเรียกร้องให้ผู้คนรีบจัดการกับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงของโลกเช่นกัน
หนึ่งในกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มกรีนพีซระบุว่า เสื้อสีแดงของพวกเขาสื่อถึง “การเตือนภัยระดับสูงสุด” เพื่อเรียกร้องความสนใจจากโลก ขณะที่ผู้ชุมนุมคนอื่นๆ ชูแผ่นป้ายที่มีข้อความให้รีบลงมือแก้ปัญหาโลกร้อนทันที ขณะที่บางส่วนผูกผ้าพันคอที่มีคำว่า "พลังงานแสงอาทิตย์"
ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมระบุว่า การชุมนุมส่งเสียงอึกกระทึกครึกโครมครั้งนี้ เป็นการแสดงการสนับสนุนความพยายามของผู้นำโลกในที่ประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ในกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อบรรลุข้อตกลงฉบับใหม่แทนที่พิธีสารเกียวโตที่จะหมดอายุลงในปี 2012 การประชุมนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ 7-18 ธันวาคมนี้
นอกจากนี้ ยังมีนักเคลื่อนไหวชุมนุมกันในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย และในฮ่องกง ด้วยจุดประสงค์เดียวกันนี้