“โอบามา” เยือนโสมขาวปิดท้ายทัวร์เอเชีย

เอเอฟพี/เอเจนซี/ASTV ผู้จัดการรายวัน - ประธานาธิบดี โอบามา และผู้นำโสมขาวเรียกร้องเกาหลีเหนือกลับสู่เวทีเจรจา 6 ฝ่ายเพื่อแก้ปัญหานิวเคลียร์ พร้อมเตือนถึงเวลาแล้วที่โสมแดงต้องหยุดพฤติกรรมยั่วยุ โดยผู้นำสหรัฐฯประกาศจะส่งทูตพิเศษเยือนเปียงยางเป็นครั้งแรก 8 ธันวาคมนี้

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดี ลี-มยอง-บัก แห่งเกาหลีใต้ ยืนยันระหว่างการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการหารือที่ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในกรุงโซลวานนี้ (19) ว่า เกาหลีเหนือควรกลับสู่เวทีเจรจา 6 ฝ่ายเพื่อแก้ปัญหาโครงการนิวเคลียร์อีกครั้ง แม้ผู้นำทั้งสองจะเห็นพ้องกันว่าการเจรจา 6 ฝ่าย ที่ประกอบด้วย สหรัฐฯ สองเกาหลี จีน รัสเซีย และญี่ปุ่นซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2003 อาจไม่ช่วยให้เกิดการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนืออย่างถาวรในอนาคตอันใกล้ก็ตาม

ผู้นำทั้งสองยังระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่เกาหลีเหนือต้องยุติพฤติกรรมเชิงยั่วยุทุกรูปแบบพร้อมย้ำว่า รัฐบาลเปียงยางไม่ควรใช้เทคนิคในการ “ซื้อเวลา” และ “เรียกร้องความสนใจ” อย่างที่ผ่านมาอีก ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้เกาหลีเหนือได้รับความช่วยเหลือจากนานาชาติและมีโอกาสได้รับการยอมรับจากประชาคมโลกมากขึ้น

ขณะเดียวกัน โอบามา ประกาศว่าจะส่ง สตีเฟน วอร์เร็น บอสเวิร์ธ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำเกาหลีใต้ ซึ่งปัจจุบันเป็นทูตพิเศษด้านนโยบายเกาหลีเหนือ เดินทางไปเจรจาโดยตรงกับรัฐบาลเปียงยาง เรื่องโครงการนิวเคลียร์ในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ โดยโอบามาระบุว่าภารกิจหลักของบอสเวิร์ธ คือการโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือยอมกลับสู่โต๊ะเจรจา 6 ฝ่ายหลังจากถอนตัวไปตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา

อนึ่ง ในการหารือระหว่างผู้นำเกาหลีใต้และสหรัฐฯครั้งนี้ ได้มีการหารือเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างทั้ง 2 ประเทศที่ไม่ชะงักงันอยู่ โดยประธานาธิบดีลีกล่าวหลังการหารือว่าการค้าระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯเป็นไปอย่างสมดุลอยู่แล้ว และหากสหรัฐฯคิดว่ามีปัญหาในภาคยานยนต์ เกาหลีใต้ก็พร้อมจะเจรจาเรื่องนี้อีกครั้ง เนื่องจากเกาหลีใต้ก็ทำเอฟทีเอกับสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกเช่นกัน

ผู้นำทั้งสอง ยืนยันว่า สหรัฐฯและเกาหลีใต้จะเพิ่มความพยายามเป็น 2 เท่าเพื่อผลักดันให้ข้อตกลงฉบับนี้มีความคืบหน้า แม้ทางโอบามา จะระบุว่า ยังคงมีอีกหลายประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายต้องหารือ และทำงานร่วมกัน และยังไม่ยอมกำหนดกรอบเวลาในการให้สัตยาบันข้อตกลงเอฟทีเอกับเกาหลีใต้อย่างชัดเจนก็ตาม

ทั้งนี้ สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างกันไปตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายน 2007 แต่สภาคองเกรสของสหรัฐฯ ยังคงไม่ได้ให้สัตยาบันรับรอง โดยที่รัฐบาลสหรัฐฯก็พยายามเรียกร้องให้เกาหลีใต้ยอมเปิดตลาดให้ผู้ประกอบธุรกิจในภาคปศุสัตว์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐฯมากขึ้น