เอเจนซี - ราคาน้ำมันร่วงลงกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์(6) กลับมาแตะระดับ 77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง หลังข้อมูลเผยตัวเลขคนตกงานสหรัฐฯเดือนตุลาคมพุ่งสูงสุดในรอบ 26 ปีครึ่ง เพิ่มความกังวลต่ออุปสงค์พลังงาน ทว่าปัจจัยนี้กลับไม่กระทบต่อตลาดหุ้น โดยวอลล์สตรีทสามารถขยับขึ้นได้อีกเล็กน้อย
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่าในเดือนตุลาคม มีลูกจ้างถูกปลดจากงานอีก 190,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่ตลาดคาดหมายไว้ว่าจะมีเพียง 175,000 ตำแหน่ง ทำให้อัตราคนว่างงานภายในชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้พุ่งขึ้นไปที่ 10.2 เปอร์เซ็นต์
ตลาดพลังงานต้องจับตาข้อมูลทางเศรษฐกิจเพื่อพิจารณาถึงสัญญาณแห่งการฟื้นตัวจากภาวะถดถอยที่กระทบต่อการบริโภคเชื้อเพลิง โดยสัญญาณในทางบวกทางเศรษฐกิจช่วยผลักให้ราคาน้ำมันขยับจากระดับต่ำสุด 33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนธันาคม 2008 ขึ้นมาอยู่ราคา ณ ปัจจุบันนี้
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 2.19 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ลอนดอน ร่วงลง 2.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(6) การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ก่อนปิดในแดนบวกเล็กน้อย โดยนักลงทุนเมินข้อมูลอันน่าผิดหวังทางภาคแรงงาน ในวันสุดท้ายของสัปดาห์ที่ขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 17.53 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,023.49 จุด แนสแดก เพิ่มขึ้น 6.90 จุด (0.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,112.22 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.66 จุด (0.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,069.29 จุด