เอเอฟพี - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เดินทางไปฐานทัพอากาศสหรัฐฯในมลรัฐเดลาแวร์ เพื่อเป็นเกียรติในพิธีรับศพทหารที่เสียชีวิตจากการสู้รบในอัฟกานิสถาน นับเป็นการแหกกฎเดิมที่ห้ามสื่อรายงานข่าวขนส่งศพทหารจากสงคราม ท่ามกลางเสียงคาดคะเนต่างๆ นานา ว่า ผู้นำสหรัฐฯจะส่งทหารอเมริกันไปตายที่สมรภูมิรบเพิ่มอีกหรือไม่
เครื่องบินลำเลียงซี -17 ของกองทัพสหรัฐฯ นำศพทหาร 15 คน และเจ้าหน้าที่ต่อต้านยาเสพติดของกระทรวงยุติธรรม 3 คน มาถึงฐานทัพอาการโดเวอร์ ในเมืองโดเวอร์ เช้ามืดวันนี้ (29) โดยมีประธานาธิบดี โอบามา ร่วมรอรับศพกับบรรดาญาติของผู้ที่สังเวยชีวิตในอัฟกานิสถาน
เจ้าหน้าที่ยุติธรรม 3 คน เสียชีวิตจากเฮลิคอปเตอร์ตก ขณะที่ทหาร 8 คนเสียชีวิตจากระเบิดดจมตีในถนนในอัฟกานิสถาน เมื่อวันจันทร์ (26) ในเดือนนี้ ซึ่งเป็นเดือนที่ทหารสหรัฐฯเสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่สงครามอัฟกันอุบัติขึ้นเมื่อ 8 ปีก่อน
คำสั่งห้ามสื่อรายงานการขนส่งศพทหารเสียชีวิตในสงครามเริ่มขึ้นในสมัยประธานาธิบดีจอร์จ เอช บุช ในสมัยสงครามอ่าวเปอร์เซีย และประธานาธิบดี จอร์จ ดับเลิลยู บุช ฟื้นกฎนี้ขึ้นอีกครั้งในช่วงสงครามอิรักและอัฟกานิสถาน เนื่องจากภาพกองทหารเกียรติยศแบกโลงศพออกจากท้องเครื่องบิน เป็นสัญลักษณ์แห่งความหดหู่จากสงครามเวียดนาม ทั้งยังเป็นสิ่้งเตือนใจว่ามีคนตายจำนวนมาก การปกปิดดังกล่าวทำให้บุชจูเนียร์ถูกกล่าวหาว่าพยายามปิดปังยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงในสงครามอัฟกันและอิรัก ซึ่งขณะนี้มีการอ้างว่ามีทหารอเมริกันเสียชีวิตถึงกว่า 5,000 คนแล้ว
รอเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ โดยกำหนดให้ครอบครัวทหารเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะยอมให้สื่อเปิดเผยต่อสาธารณชนหรือไม่
เดือนนองเลือดที่สุดของทัพสหรัฐฯในอัฟกานิสถาน ทำให้เกิดแรงกดดันอย่างหนักต่อโอบามาในการตัดสินใจส่งทหารเพิ่มไปอีก 40,000 คน ตามคำร้องขอของ จอห์น แม็คเคน วุฒิสมาชิอกพรรริพับลิกัน ออกมาเรีกยร้องให้โอบามาตัดสินใจโดยเร็ว และระบุว่า พันธมิตรในสงครามกำลังกังวลกับความเป้ฯผู้นำของสหรัฐฯ ขณะที่โอบามา ระบุว่า เขาจะไม่ด่วนตัดสินใจเรื่องคอขาดบาดตายแบบนี้ โดยจะหารือกับบรรดาเสนาธิการหทารก่อนในวันพรุ่งนี้ ขณะที่คาดว่า โอบามาจะตัดสินใจเรื่องส่งทหารก่อนการเดินทางเยือนเอเชียในวันที่ 11 พฤศจิกายน