เอเอฟพี - รัฐมนตรีสาธารณสุขมะกันเผยสหรัฐฯ จะไม่บริจาควัคซีนป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ให้แก่ประเทศยากจนทั้งหลาย จนกว่าชาวอเมริกันที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจะได้รับวัคซีนเชื้อไวรัส เอช 1 เอ็น 1 แล้วทั้งหมด
แคธลีน เซเบลิอุส รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหรัฐฯ กล่าวว่า “ขณะที่เริ่มหาวัคซีนได้ง่ายขึ้น ฉันคิดว่าจะมีการประเมินต่อไปว่าเมื่อไรเหมาะที่จะเริ่มบริจาคได้ แต่ฉันสามารถบอกได้เลยว่า ณ เวลานี้ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ การให้วัคซีนแก่พลเมืองในประเทศนี้ก่อน และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังดำเนินงานอยู่”
เซเบลิอุสเสริมว่า นี่เป็นความตั้งใจของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ความปลอดภัย และความมั่นคงของชาวอเมริกันต้องมาเป็นอันดับ 1 ในการผลิต และแจกจ่ายวัคซีนป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เอช1เอ็น1
ในเดือนที่ผ่านมา ทำเนียบขาวรับรองว่าจะสะสมวัคซีน เอช 1 เอ็น 1 ไว้ให้สำหรับองค์การอนามัยโลก หากวัคซีนมีเพียงพอ เพื่อช่วยเหลือประเทศอื่นๆ ที่ไม่สามารหาวัคซีนได้โดยตรง โดยอนามัยโลกระบุว่า การบริจาควัคซีนจากกลุ่มประเทศร่ำรวย ที่นำโดยสหรัฐฯ ไปให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา 100 ประเทศน่าจะสามารถเริ่มได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการฉีดวัคซีนชุดแรกให้กับพลเมืองสหรัฐฯ ตั้งแต่ 3 สัปดาห์ก่อน แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องจำใจยอมรับว่า ยังแจกจ่ายวัคซีนเอช1เอ็น1 ได้รวดเร็วพอ หรือ ไม่ถึงปริมาณที่ตั้งเป้าไว้
ขณะที่ช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น และแพร่กระจายไปทั่วประเทศ ด้านผู้ผลิตวัคซีนก็ได้ออกมาเตือนว่า ต้องชะลอการผลิตลง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจึงประกาศว่าอาจแจกจ่ายวัคซีนลดลงถึง 10 ล้านโดส จาก 40 ล้านโดส ที่ตั้งเป้าไว้ในครั้งแรกภายในเดือนนี้
สำหรับชาวอเมริกันกลุ่มเสี่ยง 5 กลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีน คือ เด็ก วัยรุ่น หญิงมีครรภ์ คนที่มีอาการป่วย เช่น หอบ หืด เจ้าหน้าที่การแพทย์ และผู้ดูแลเด็กทารกที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งไม่สามารถรับวัคซีนได้ด้วยตนเอง จำนวน 150 ล้านคน แม้ทางการสั่งเตรียมวัคซีนไว้แล้ว 250 ล้านโดส แต่ก็ยังไม่สามารถจัดหาได้ทั้งหมดพร้อมกัน เซเบลิอุสเสริม