เอเอฟพี - นักค้นคว้าชั้นนำของเกาหลีใต้ เผยว่า คิม จอง-อิล ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้ยับยั้งแผนการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อสนับสนุนให้บุตรชายคนสุดท้องเป็นผู้สืบทอดอำนาจต่อจากเขา หลังบุตรชายคนนี้วางกล้ามก่อนถึงเวลาอันควร
นัม ซุง-วุค หัวหน้าสถาบันยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ ในสังกัดหน่วยข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ เผยว่า คิม จอง-อิล และ คิม จอง-อุน ขัดแย้งกันในประเด็นจัดการกำลังพลทหาร ขณะที่จัง ซอง-แทก ซึ่งเคยถูกมองเป็นมือขวาของผู้นำเกาหลีเหนือก็ไม่อยู่ในตัวเลือกที่จะเป็นผู้สืบทอดอำนาจบริหารประเทศเช่นกัน
“คิม จอง-อิล รู้ดีว่า พระอาทิตย์สองดวงไม่ควรจะอยู่ใต้ท้องฟ้าเดียวกัน” นัม แสดงความคิดเห็นในการประชุมหนึ่งเมื่อวานนี้ (20) และถูกนำออกมาเผยแพร่ในวันนี้
การคาดหมายเกี่ยวกับผู้สืบทอดอำนาจผู้นำเกาหลีเหนือ เกิดขึ้นหลังจากคิม วัย 67 ปี ล้มป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จากนั้นก็มีกระแสข่าวแพร่สะพัดออกมาอย่างต่อเนื่อง ว่า ผู้นำเกาหลีเหนือตัดสินใจเลือกบุตรชายคนเล็กเป็นผู้สืบทอดอำนาจ โดยเมื่อช่วงปลายปีก่อนสื่อทางการเกาหลีเหนือ เริ่มโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับการสืบทอดอำนาจ แต่การรณรงค์ดังกล่าวหยุดชะงักลงเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้น ฮอง ยัง-โฮ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ระบุในเดือนนี้ ว่า ทางการเกาหลีเหนือยังเรียกร้องการแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันต่อ คิม จอง-อิล แทนด้วย
ด้าน สื่อญี่ปุ่นรายงานแต่เดือนกันยายน ที่ผ่านมา ว่า เกิดรอยร้าวระหว่างคิม และบุตรชายคนเล็กตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เนื่องจากลูกชายของเขาคนนี้จัดการเรื่องกองทัพโดยไม่ปรึกษาเขา สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือเป็นอย่างมาก กระทั่งเขาได้สั่งการให้สื่อทางการยุติการนำเสนอข่าวสารที่ยกย่องบุตรชาย รวมทั้งเรื่องการสืบทอดอำนาจด้วย ตามการรายงานข่าวของบรรทษัทกระจายเสียงแห่งญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภานิติบัญญัติคนหนึ่งของเกาหลีใต้ เผยโดยอ้างรายงานลับว่า คิม จอง-อุน ได้รับการคาดหมายว่า จะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้สืบทอดอำนาจจากบิดาอย่างเป็นทางการระหว่างปี 2010 หรือ 2012 นี้