เอเอฟพี - ศาลฝรั่งเศสเมื่อวันพฤหัสบดี(15) ปฏิเสธคำร้องขอของแม่หม้ายวัย 39 ปีรายหนึ่งที่ต้องการกู้สเปิร์มแช่แข็งสามีที่ตายไปแล้ว เพื่อจะได้มีลูกด้วยวิธีเพาะพันธุ์ ไล่ตามความฝันมีบุตรร่วมกัน
นางฟาเบียงเน จุสตอง เรียกร้องไปยังธนาคารอสุจิหรือธนาคารสเปิร์มแห่งหนึ่งในเมืองแรนส์ ทางตะวันตกของฝรั่งเศส ให้ส่งมอบตัวอย่างอสุจิของ โดมินิเก ผู้เป็นสามี ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อ 3 เดือนก่อน หลังจากที่พวกเขาตกลงปลงใจแต่งงานกันในเดือนมิถุนายน 2008
จุสตอง หวังที่จะนำสเปิร์มไปผสมเทียมในต่างประเทศ เพราะมันคือสิ่งผิดกฎหมายในฝรั่งเศส หลังจากเกิดกรณีเสียชีวิต รวมไปถึงการหย่าร้างและแยกทางกันของสามีและภรรยาหลายคู่
อย่างไรก็ตามศาลได้ปฏิเสธคำร้องของจุสตอง โดยวินิจฉัยว่าเธอกำลังต้องการหลีกเลี่ยงกฎหมายของฝรั่งเศสที่ห้ามเพาะพันธุ์ภายหลังการเสียชีวิต
จุสตอง เปิดเผยว่ารู้สึกเสียใจ แต่ก็ไม่ประหลาดใจต่อคำพิพากษานี้และเตรียมจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป "มันไม่น่าประหลาดใจเลย ฉันไม่ได้หลงละเมอใดๆ" เธอบอกกับเอเอฟพี "แต่ฉันแค่ต้องการสเปิร์มของสามีคืนมาเท่านั้น ฉันไม่มีเวลาที่จะพ่ายแพ้อีกแล้ว"
แม่หม้ายรายนี้เล่าต่อว่าสามีของเธอตัดสินใจมอบอสุจิแก่ธนาคารสเปิร์ม หลังจากทราบว่าตนเองป่วยระยะสุดท้ายและหวังว่าความฝันที่จะมีลูกร่วมกันจะกลายเป็นจริงแม้เขาได้จากไปแล้ว
"สำหรับเรา การมีลูกคือสิ่งที่ฝันมาตลอดทั้งชีวิต" จุสตองผู้เคยมีลูกกับสามีคนก่อน 3 คนกล่าว อย่างไรก็ตามทางอัยการโต้แย้งว่า โดมินิเก จุสตอง ได้มีสัญญากับธนาคารสเปิร์มว่าจะใช้อุสจิของ โดมินิเก ก็ต่อเมื่อเขามีชีวิตอยู่และต้องได้รับความยินยอมจากเขาเสียก่อน
นางฟาเบียงเน จุสตอง เรียกร้องไปยังธนาคารอสุจิหรือธนาคารสเปิร์มแห่งหนึ่งในเมืองแรนส์ ทางตะวันตกของฝรั่งเศส ให้ส่งมอบตัวอย่างอสุจิของ โดมินิเก ผู้เป็นสามี ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อ 3 เดือนก่อน หลังจากที่พวกเขาตกลงปลงใจแต่งงานกันในเดือนมิถุนายน 2008
จุสตอง หวังที่จะนำสเปิร์มไปผสมเทียมในต่างประเทศ เพราะมันคือสิ่งผิดกฎหมายในฝรั่งเศส หลังจากเกิดกรณีเสียชีวิต รวมไปถึงการหย่าร้างและแยกทางกันของสามีและภรรยาหลายคู่
อย่างไรก็ตามศาลได้ปฏิเสธคำร้องของจุสตอง โดยวินิจฉัยว่าเธอกำลังต้องการหลีกเลี่ยงกฎหมายของฝรั่งเศสที่ห้ามเพาะพันธุ์ภายหลังการเสียชีวิต
จุสตอง เปิดเผยว่ารู้สึกเสียใจ แต่ก็ไม่ประหลาดใจต่อคำพิพากษานี้และเตรียมจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป "มันไม่น่าประหลาดใจเลย ฉันไม่ได้หลงละเมอใดๆ" เธอบอกกับเอเอฟพี "แต่ฉันแค่ต้องการสเปิร์มของสามีคืนมาเท่านั้น ฉันไม่มีเวลาที่จะพ่ายแพ้อีกแล้ว"
แม่หม้ายรายนี้เล่าต่อว่าสามีของเธอตัดสินใจมอบอสุจิแก่ธนาคารสเปิร์ม หลังจากทราบว่าตนเองป่วยระยะสุดท้ายและหวังว่าความฝันที่จะมีลูกร่วมกันจะกลายเป็นจริงแม้เขาได้จากไปแล้ว
"สำหรับเรา การมีลูกคือสิ่งที่ฝันมาตลอดทั้งชีวิต" จุสตองผู้เคยมีลูกกับสามีคนก่อน 3 คนกล่าว อย่างไรก็ตามทางอัยการโต้แย้งว่า โดมินิเก จุสตอง ได้มีสัญญากับธนาคารสเปิร์มว่าจะใช้อุสจิของ โดมินิเก ก็ต่อเมื่อเขามีชีวิตอยู่และต้องได้รับความยินยอมจากเขาเสียก่อน
