เอเอฟพี - รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางกระชับสัมพันธ์กับรัสเซีย ระบุ สหรัฐฯ ยังไม่ต้องการให้เพิ่มมาตรการการคว่ำบาตรอิหร่านในเวลานี้ แต่ถ้าการเจรจาระหว่างชาติมหาอำนาจกับอิหร่านประสบความล้มเหลว การคว่ำบาตรเพิ่มเติมก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ฮิลลารี คลินตัน อยู่ระหว่างการเดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ การเดินทางครั้งนี้มีเป้าหมายได้รับแรงสนับสนุนจากรัสเซียในเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน และกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซีย ซึ่งมีรอยร้าวฉาวตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช
ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ผู้นำรัสเซีย เคยระบุก่อนหน้านี้ว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรอิหร่าน หากอิหร่านยังผลักดันโครงการนิวเคลียร์ต่อไป ซึ่งฮิลลารี ก็เห็นด้วย โดยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าววันนี้ (13) หลังจากหารือกับเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซียที่กรุงมอสโก ว่า สหรัฐฯ ยังไม่ต้องการให้เพิ่มมาตรการการคว่ำบาตรอิหร่านในเวลานี้ อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯกำลังพยายามระดมความคิดเห็นจากนานาชาติ เรื่องการคว่ำบาตรเพิ่มเติม หากไม่มีพัฒนาการในทางที่ดีจากฝ่ายอิหร่าน
รัสเซีย ต่อต้านการคว่ำบาตรรุนแรงต่ออิหร่านมาตลอด และความเห็นของประธานาธิบดีเมดเวเดฟเมื่อเดือนที่แล้ว ถูกมองว่าเป็นการเปลี่ยนท่าทีที่มุ่งเอาใจตะวันตก อย่างไรก็ตาม ลาฟรอฟ ย้ำว่า การคว่ำบาตรอิหร่านจะไม่ได้ประโยชน์อะไร
นอกจากนี้ เขายังเผยว่ารัสเซียและสหรัฐฯ มีความคืบหน้าสำคัญในการเจรจาทำข้อตกลงลดอาวุธนิวเคลียร์ฉบับใหม่ ที่จะนำมาทดแทนข้อตกลงลดอาวุธทางยุทธศาสตร์ (สนธิสัญญา START) ปี 1991 ซึ่งจะหมดอายุลงในเดือนธันวาคมนี้
ทั้งนี้ ฮิลลารี ปฏิเสธว่า ไม่ได้มาเยือนรัสเซีย เพื่อหวังให้รัสเซียหนับสนุนท่าที่ค่อนข้างแข็งกร้าวต่ออิหร่าน โดยระบุว่า สหรัฐฯทบทวนบทบาทและรู้ตลอดว่ามีจุดยืนอยู่ตรงไหน
ในหมู่ชาตำมหาอำนาจ รัสเซียมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับอิหร่านมากที่สุด และส่งฮาร์ดแวร์ทางทหารให้แก่เตหะราน เพื่อใช้สร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกของประเทศ อย่างไรก็ตาม รัสเซียยังไม่ได้เติมเต็มความปรารถนาของเตหะราน ที่ต้องการได้รับระบบป้องปรามทางอากาศ เอส-300 ซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์ที่นักวิเคราห์ระบุว่า สามารถต้านทานการโจมตีทางอากาศทุกรูปแบบจากตะวันตกได้