ฟิลิปปินส์สั่งซื้อข้าวนำเข้าหลังเจอไต้ฝุ่นถล่ม

เอเจนซี - ฟิลิปปินส์ประกาศจะซื้อข้าวจากต่างประเทศ 250,000 ตันในวันจันทร์ (12) หลังจากที่ถูกไต้ฝุ่นถึง 2 ลูกกระหน่ำในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา จนพื้นที่การเกษตรตลอดจนถนนหนทางต่าง ๆ เสียหายอย่างหนัก และยังคร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 650 คน

สำนักงานอาหารแห่งชาติของฟิลิปปินส์แถลงว่าจะเปิดประมูลซื้อข้าวในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ซึ่งนับว่าเร็วกว่าปกติประมาณ 2 เดือน โดยให้มีการส่งมอบในระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายนปีหน้า

ขณะที่กระทรวงเกษตรให้ตัวเลขว่า พายุไต้ฝุ่น "กิสนา" และ "ป้าหม่า" ได้กระหน่ำใส่พื้นที่ปลูกข้าวสำคัญที่อยู่บนเกาะลูซอน ทำลายนาข้าวที่ควรเก็บเกี่ยวได้ผลผลิต 560,000 ตัน หรือเท่ากับ 8.6% ของผลผลิตที่คาดการณ์ไว้ว่าจะออกมาในไตรมาส 4 ปีนี้จำนวนทั้งสิ้น 6.5 ล้านตัน ทางด้าน อาร์เธอร์ ยัป รัฐมนตรีเกษตร ระบุว่าพายุไต้ฝุ่นทั้งสองได้สร้างความเสียหายให้กับพืชผลทางการเกษตรเป็นมูลค่าร่วมๆ 12,000 ล้านเปโซ (257 ล้านดอลลาร์) แต่ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีปัญหาการขาดแคลนข้าวในประเทศ

ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่หลายรายเคยพูดไว้ว่า ฟิลิปปินส์กำลังจะต้องนำเข้าข้าวเป็นจำนวนถึงราว 2 ล้านตันสำหรับสนองความต้องการบริโภคในปี 2010 หลังจากที่นาข้าวเสียหายไปอย่างหนักจากพายุ โดยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 13 จากระดับการนำเข้าที่ 1.775 ล้านตันในปีนี้ ซึ่งจำนวนมากทีเดียวเป็นการสั่งซื้อจากเวียดนาม ผ่านการตกลงซื้อขายระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล

เท่าที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์เป็นประเทศผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลกอยู่แล้ว แต่เมื่อวันที่ 26 กันยายน พายุไต้ฝุ่นกิสนาได้พัดถล่มสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ในเขตเมืองหลวงและโดยรอบอย่างหนักจนมีผู้เสียชีวิตไป 337 คน ประชาชนราวห้าแสนคนต้องอพยพไปอยู่ตามที่พักชั่วคราว ต่อมาในวันที่ 3 ตุลาคม พายุไต้ฝุ่นป้าหม่าก็ถล่มพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ปลูกข้าวในจังหวัดต่างๆ ของเกาะลูซอน มีผู้เสียชีวิตอีก 314 คนเนื่องจากดินถล่มและจมน้ำ