พนง.ฟรานซ์ เทเลคอม หยุดงานประท้วง-ร้องซีอีโอรับผิดชอบเหตุฆ่าตัวตายต่อเนื่อง

เอเอฟพี - ประธานบริหารบริษัท ฟรานซ์ เทเลคอม ต้องเผชิญเหตุคนงานหยุดงานประท้วงเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันอังคาร(29) ขณะที่กรณีพนักงานฆ่าตัวตายต่อเนื่อง 24 ศพ จุดชนวนข้อเรียกร้องจัดตั้งคณะไต่สวนเข้าตรวจสอบสภาพแวดล้อม ณ ที่ทำงานซึ่งถูกกล่าวโทษว่าเป็นต้นตอของเหตุฆ่าตัวตาย

คุณพ่อลูก 2 วัย 51 ปี พนักงานของพรานซ์เทเลคอมสาขาเมืองอันซี แถบเทือกเขาแอลป์ของฝรั่งเศส กระโดดจากสะพานลอยลงสู่ทางหลวงอันพลุกพล่านระหว่างชั่วโมงเร่งด่วนเสียชีวิตเมื่อวันจันทร์(28) พร้อมทิ้งจดหมายกล่าวโทษแรงกดดันจากที่ทำงานบีบให้เขาต้องทำแบบนี้ ทำให้เขากลายเป็นพนักงานพรานซ์เทเลคอมรายที่ 24 แล้วที่ฆ่าตัวตายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

พนักงานฟรานซ์ เทเลคอม ได้นัดหยุดงานหลายเมืองทั่วประเทศเมื่อวันอังคาร(27) ทั้งในอันซี เกรอนอบบ์ ลียง และบอร์กโดซ์ เพื่อเรียกร้องขอมาตรการที่ชัดเจนต่อระลอกคลื่นแห่งการฆ่าตัวตาย

ดิดิเยร์ ลอมบาร์ด ประธานบริหารของบริษัทขานรับข้อเรียกร้องดังกล่าวด้วยการแจ้งระงับนโยบายที่ได้รับฉายาว่า “เวลาแห่งการโยกย้าย” ที่มีการปรับย้ายตำแหน่งผู้จัดการในทุก 3 ปีที่ซึ่งเพิ่มแรงกดดันในหมู่พนักงาน หนึ่งในข้อสัญญาที่ให้ไว้เมื่อเดือนก่อนว่าจะพิจารณานโยบายส่วนบุคคลนี้เสียใหม่

อย่างไรก็ตาม ส.ส.ฝ่ายค้านและสหภาพแรงงานยังไม่พอใจข้อเสนอของซีอีโอรายนี้ “มากกว่าความพยายามประชาสัมพันธ์ของเขา เราเชื่อว่าผู้นำทางธุรกิจต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก นี่คือความเป็นไปได้อย่างเดียวในตอนนี้” เบอนอต ฮามอน โฆษกพรรคสังคมนิยม

นอกจากนี้ ส.ส.จากสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์ ยังเรียกร้องให้จัดตั้งคณะกรรมาธิการไตสวนของรัฐสภาขึ้นมาอย่างเร่งด่วน เพื่อเข้ามาสืบสวนเหตุการฆ่าตัวตายนี้

กระนั้นก็ดี ซาเวียร์ แบร์ทรองด์ แกนนำพรรครัฐบาลฝ่ายขวาของประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ปฏิเสธข้อเรียกร้อง บอกว่าการลาออกของ ลอมบาร์ด "ไม่ใช่ประเด็น"

อดีตหน่วยงานของรัฐที่เวลานี้ได้แปรรูปดำเนินกิจการอย่างเสรี ฟรานซ์เทเลคอม ได้ปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่หลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นำไปสู่เสียงคร่ำครวญอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับแรงกดดันในหมู่พนักงาน

บริษัทแห่งนี้มีพนักงานราว 100,000 คน และอัตราฆ่าตัวตายในหมู่พนักงานไม่ได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของพลเรือนทั่วไป แต่หลายครั้งเหยื่อมักปลิดชีพตัวเอง ณ ที่ทำงานหรือหลังจากกล่าวโทษบริษัทต่อความสิ้นหวังของพวกเขา

ด้าน เซบางเตียน โครซีแยร์ ตัวแทนสหภาพซีเอฟอี-ซีจีซี เตือนว่า “ภาพลักษณ์ของบริษัทได้รับความเสียหาย โดยภายในบริษัทพนักงานต่างพูดถึงการบริหารจัดการว่า เวลาแห่งการโยกย้ายมันไม่มีความน่าเชื่อถืออีกต่อไป”