เอเจนซี - สัญญาขายอาวุธให้บราซิล ซาอุดีอาระเบีย โมร็อกโก ทำให้ยอดขายอาวุธของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 นับว่าสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2000 หลังจากที่รัฐบาลประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี พยายามสนับสนุนบริษัทส่งออกอาวุธที่รัฐบาล ระบุว่า เป็นธุรกิจที่สร้างงานถึง 50,000 ตำแหน่ง
บริษัทผลิตอาวุธสัญชาติฝรั่งเศสเพิ่งได้รับใบสั่งซื้อใหม่ๆ มูลค่า 6,600 ล้านยูโร ทำให้ฝรั่งเศสเป็นชาติที่ส่งออกอาวุธมากที่สุดเป็นลำดับที่ 4 ของโลก รองจากสหรัฐฯ อังกฤษ และรัสเซีย โดยฝรั่งเศสได้ส่วนแบ่งตลาดค้าอาวุธร้อยละ 7 และกำลังมุ่งหาลูกค้าใหม่ๆ นอกจากลูกค้าดั้งเดิมในตะวันออกกลาง
บราซิลและฝรั่งเศสเซ็นสัญญาค้าอาวุธมูลค่าถึง 8,600 ล้านยูโรในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงเฮลิคอปเตอร์อีซี ซูเปอร์ คูการ์ (EC725 Super Cougar) จำนวน 50 ลำของบริษัทยูโรคอปเตอร์ในเครือของบริษัท อีดส์ แห่งยุโรปด้วย
ทั้งนี้ บริษัทอาวุธของฝรั่งเศสเผชิญแรงกดดันอย่างยิ่งเกือบตลอดทศวรรษที่ผ่านมา เมื่อต้องดิ้นรนสร้างความสำเร็จให้ได้เหมือนกับยุคเครื่องบินรบมิราจ โดยหวังว่า เครื่องบินขับไล่ราฟาลจะประสบความสำเร็จเช่นกัน อย่างไรก็ตามยังหาคนตกลงซื้อเครื่องบินรุ่นนี้ไม่ได้
ในปี 2000 ฝรั่งเศสขายระบบอาวุธได้มูลค่า 8,200 ล้านยูโร ขณะที่โมรอกโคเป็นลูกค้ารายใหญ่อันดับ 2 ในปี 2008 ด้วยสัญญาซื้อเรือรบเฟรม (FREMM) ซึ่งบริษัทของรัฐบาลฝรั่งเศสเป็นผู้ผลิตและบริษัท ทาเลส มีหุ้นร้อยละ 25 ส่วนซาอุดีอาระเบีย เป็นลูกค้าใหญ่อันดับ 3 ส่วนหนึ่งเพราะการซื้อเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงที่ดัดแปลงจากเครื่องบินโดยสารของบริษัท แอร์บัส
อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสเพิ่งขายหน้าหลังจากสิ้นปีที่แล้วโมร็อกโคไม่สนซื้อเครื่องบินราฟาล แต่ไปเลือกซื้อเครื่องบินเอฟ-16 ของบริษัทล็อคฮีดมาร์ตินแทน ทำให้ประธานาธิบดีซาร์โกซี สั่งการให้ยกเครื่องระบบการค้าอาวุธส่งออกของประเทศ
รายงานการขายอาวุธต่อรัฐบาลฝรั่งเศสเกิดขึ้น ขณะที่บริษัท อีดส์ และหุ้นส่วนอเมริกันนอร์ธอร์ป กัมแมน กำลังช่วงชิงให้ได้ออร์เดอร์เครื่องบินบรรทุกน้ำมันจากรัฐบาลสหรัฐฯกับบริษัทโบอิ้งสัญชาติอเมริกันซึ่งอาจมีมูลค่าถึง 50,000 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว