เอเจนซี/เอเอฟพี - กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมและประเทศเฟื่องฟูใหม่ 20ชาติ(จี 20)เห็นชอบเพิ่มบทบาทของเอเชียและชาตละตินอเมริกาในเวทีโลกมากยิ่งขึ้น และประกาศว่าการต่อสู้กับเศรษฐกิจของพวกเขาได้รับความสำเร็จระดับหนึ่ง แต่ยังจะยังคงผลักดันให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างยั่งยืนและเกิดความสมดุลให้ได้ต่อไป
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ที่เป็นเจ้าภาพการจัดการประชุมเป็นครั้งแรก ระบุในแถลงการณ์ของที่ประชุมว่า มาตรการตอบโต้ของจี 20 ได้หยุดยั้งภัยคุกคามทางเศรษฐกิจและสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดการเงิน และกรอบการทำงานใหม่ของจี 20 จะเปิดทางให้ชาติสมาชิกประเมินนโยบายของชาติอื่นๆ เพื่อช่วยกันปฏิรูปและส่งเสริมให้เศรษฐกิจโลกเติบโต
การประชุมสุดยอดจี20 ในเมืองพิตต์สเบิร์กที่ปดิฉากลงเมื่อวันศุกร์(25) ยังเห็นชอบให้ยกสถานะ "จี 20" ขึ้นแทนที่ "จี 8" เพื่อให้เป็นเวทีถาวรแห่งใหม่ในการหารือและกำหนดนโยบายเศรษฐกิจโลก โดยผู้นำจี 20 ให้เหตุผลว่า การปรับให้องค์กรทางการเงินและโครงสร้างการพัฒนาเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างเสถียรภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืนและช่วยยกระดับชีวิตของคนจนให้ดีขึ้นด้วย
จี 20 ยังเห็นพ้องว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่หยุดใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เริ่มเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังเห็นชอบให้ประเทศกำลังพัฒนาอย่างจีน อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก รวมถึงภูมิภาคเอเชียและละตินอเมริกา เข้ามามีบทบาทในเวทีโลกเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับสมดุลของเศรษฐกิจโลก
ในประเด็นเรื่องต่อสู้กับภาวะโลกร้อน จี 20 ยังบรรลุข้อตกลงจะเลิกการให้เงินอุดหนุนเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศโลก
จี 20 ระบุว่า ในแต่ละปี ทั่วโลกใช้เงินประมาณ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่ออุดหนุนราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับต่ำโดยไม่ได้สะท้อนความเป็นจริง นำไปสู่การบริโภคน้ำมันมากขึ้นและปล่อยก๊าซที่ทำให้โลกร้อนเพิ่มขึ้นด้วย การบรรลุข้อตกลงยกเลิกเงินอุดหนุนราคาน้ำมันได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกจี20 ทุกประเทศ และนับเป็นชัยชนะของประธานาธิบดีโอบามา ที่จะสามารถโน้มน้าววุฒิสภาสหรัฐฯให้ผ่านร่างกฎหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก่อนที่การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยโลกร้อนจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่าดูเเหมือนว่า รัสเซีย จีน บราซิล และอินเดีย ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่อุดหนุนเชื้อเพลิงฟอสซิลอันดับต้นๆ ของโลก ไม่ยอมตกลงง่ายๆ กับข้อตกลงใดๆ ก็ตามที่ขัดวางนโยบายนี้ของพวกเขา
การตัดเงินอุดหนุนราคาน้ำมันจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้โลกร้อนลงได้ 10% ในปี 2050 ซึ่งในแถลงการณ์ของจี-20 ได้ระบุว่ารัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังของชาติสมาชิกจะกำหนดกรอบเวลาและยุทธศาสตร์การยกเลิกเงินอุดหนุนราคาน้ำมัน และส่งรายงานมาถึงผู้นำในการประชุมสุดยอดจี20 ครั้งต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมกลุ่มจี-20 ไม่ได้มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศกำลังพัฒนาเพื่อจัดการกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าการประชุมสหประชาชาติเพื่อทำข้อตกลงใหม่ที่จะลดภาวะโลกร้อน อาจไม่ประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ การประชุมจี20 เริ่มขึ้นตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ขณะที่การประชุมครั้งต่อไปในปีหน้า เกาหลีใต้และแคนาดาประกาศรับเป็นเจ้าภาพ โดยเกาหลีใต้ซึ่งจะรับตำแหน่งประธานหมุนเวียนของกลุ่มประเทศจี20 ในปีหน้า จะจัดการประชุมจี-20 ที่กรุงโซลในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นการประชุมสุดยอดครั้งที่ 5 ของกลุ่มจี20 นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่แคนาดาจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมในเดือนมิถุนายน ซึ่งจะเป็นการประชุมนอกรอบระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 8 ที่เมืองมุสโคกา
การประชุมคราวนี้ยังเกิดขึ้นขณะทีอิหร่านยอมรับว่า มีโรงงานแปรรูปยูเรเนียมแห่งที่สองที่ใช้ในโครงการพัฒนาเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ ทำให้ผู้นำสหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส ใช้เวทีนี้เรียกร้องให้อิหร่านเปิดช่องทางให้ทบวงพลังงานปรมาณูสากลเข้าไปตรวจสอบทันที และขู่ว่าจะคว่ำบาตรอิหร่านรุนแรงมากยิ่งขึ้นด้วย